แปลบทสัมฯนุ้งฟูมะ 『映画刀剣乱舞』ใน rankingbox

【บทสัมภาษณ์ 『TOUKEN RANBU THE MOVIE』 vol.05】ซาดาโมโตะ ฟูมะ ความมั่นใจที่ได้มาจากความพยายามอย่างเต็มที่ว่า「จะแสดงให้เห็นขั้นตอนการเจริญเติบโตของโฮเนะบามิออกมาอย่างไร」 และสายสัมพันธ์กับเหล่าเมมเบอร์

DxaA8YsXQAA-A0V.jpg

『TOUKEN RANBU THE MOVIE』ผลงานเวอร์ชั่นภาพยนตร์จอเงินครั้งแรกของเกมส์ออนไลน์ชื่อดังอย่าง 『TOUKEN RANBU-ONLINE-』ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว ในบรรดาเหล่า “โทวเคนดันชิ” ที่ได้เปลี่ยนรูปร่างจากดาบอันเลื่องชื่อไปสู่การเป็นนักรบนั้น ผู้ที่รับบทเป็นโฮเนะบามิ โทชิโร่ วากิซาชิ(ดาบสั้น)ผลงานของอาวาตะกุจิ  โยชิมิทสึ ช่างตีดาบในสมัยคามากุระก็คือ ซาดาโมโตะ ฟูมะ เราได้พูดคุยย้อนความหลังถึงช่วงเวลาถ่ายทำ ทั้งเรื่องความรู้สึกที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่ง『TOUKEN RANBU』เป็นครั้งแรก ทั้งเรื่องสิ่งที่เขาต้องคำนึงในการแสดงเป็นโฮเนะบามิ โทชิโร่ออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ รวมถึงยังได้เปิดเผยถึงสิ่งที่ตัวเองได้รับจากกองถ่ายทำอีกด้วย

ตกใจมากตอนที่รู้ว่าได้รับเลือก!สิ่งที่เขาทำในตอนนั้นคือ?

――ซาดาโมโตะคุงเพิ่งจะได้มีส่วนร่วมในผลงาน 『TOUKEN RANBU』เป็นครั้งแรกในภาพยนตร์『TOUKEN RANBU THE MOVIE』นี้สินะครับ ตอนที่ทราบว่าได้รับเลือกให้แสดงนั้น รู้สึกอย่างไรครับ?
     ผมได้ทราบเรื่องทางโทรศัพท์จากผู้จัดการครับ ตอนนั้นจำได้ว่า ตัวเองพูดว่า “จริงเหรอครับ!?จริงเหรอครับ!?” แล้วก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนั่งเล่นโดยไม่รู้ตัวเลย (หัวเราะ) สำหรับผมที่จนถึงตอนนี้ไม่ค่อยได้มีผลงานภาพยนตร์เท่าไหร่นั้น การที่ได้แสดงภาพยนตร์ แถมภาพยนตร์เรื่องนั้นยังเป็น『TOUKEN RANBU THE MOVIE』ที่ทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ครั้งแรก และยังได้แสดงเป็นนักแสดงหลักอีก ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆครับ

――ในเวลาเดียวกันมีความรู้สึกกดดันบ้างไหมครับ?
     สำหรับผลงาน 2.5 นั้น เรื่องของคุณลักษณะภาพรวมที่ว่าจะเหมือนหรือไม่เหมือนกับคาแรคเตอร์ต้นฉบับนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญครับ และเพราะโฮเนะบามิที่ผมแสดงเองก็มีนักแสดงที่ได้แสดงเอาไว้ในเวอร์ชั่นบุไตอยู่แล้วด้วย ดังนั้นผมจึงกังวลว่าตัวเองจะได้รับการยอมรับในฐานะโฮเนะบามิคนใหม่รึเปล่านะ เป็นความรู้สึกกดดันจริงๆครับ

――ความกดดันที่แสดงออกมาคือ……
     ตอนที่ถ่ายทำ ผมจะดูเกร็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติน่ะครับ

――แล้วสิ่งที่ซาดาโมโตะคุงต้องคำนึงในการแสดงเป็นโฮเนะบามิ โทชิโร่คืออะไรครับ?
     พอได้ดูในเวอร์ชั่นอนิเมกับบุไตแล้ว ผมก็เตรียมการแสดงโดยคิดว่าโฮเนะบามิ โทชิโร่มีอิมเมจที่ค่อนข้างมืดหม่น ไม่มีความทรงจำ แล้วก็ดูน่าจะเป็นคนที่เงียบๆครับ ตอนแรกที่ทดลองอ่านบทนั้น ผมได้รับคำแนะนำว่า “โฮเนะบามิน่าจะต้องมีความสนใจในสิ่งต่างๆให้สมกับการที่เขาไม่มีความทรงจำนะ เพราะงั้นก็ให้แสดงความสงสัยที่มีอยู่จำนวนมากออกมาอย่างซื่อตรงก็พอ” จากจุดนั้นผมจึงแสดงออกมาโดยคำนึงถึงเรื่องการเฝ้ามองสิ่งรอบๆตัวให้ดี แล้วก็ดำเนินตัวละครไปอย่างแน่วแน่ครับ

――ได้ยินมาว่าถ่ายทำภาพยนตร์กันในช่วงหนาวจัดด้วย และยังมีฉากต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีก แต่ในทางกลับกันซาดาโมโตะคุงก็จำเป็นที่จะต้องแสดงความรู้สึกที่สั่นไหวของโฮเนะบามิ โทชิโร่ออกมาอย่างระมัดระวังด้วย อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับซาดาโมโตะคุงครับ?
     คงเป็นเรื่องที่ว่า ในระหว่างที่เรื่องราวดำเนินไป เมื่อโฮเนะบามิรู้สึกตัวถึงสิ่งที่สำคัญได้แล้ว ผมจะแสดงให้เห็นขั้นตอนการเติบโตในจุดนั้นของเขาออกมาอย่างไรน่ะครับ เขาจะต้องรู้สึกอย่างไร? ความรู้สึกมีการพัฒนาไปไหม? จากจุดนั้นจะต้องทำอย่างไรต่อ? ประมาณนี้ครับ เพราะในผลงานที่เป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างละคร หรือภาพยนตร์ที่มีความแตกต่างไปจากบุไตนั้น เราไม่ได้ถ่ายทำไปตามการดำเนินเรื่อง ดังนั้นผมจึงรู้สึกได้ถึงความยากในการถ่ายทำแต่ละฉากๆที่มันไม่ได้ปะติดปะต่อกัน

ขอบคุณสำหรับความใจดีนั้น! เหล่าโทวเคนดันชิที่คอยให้คำแนะนำในช่วงเวลาที่ถ่ายทำ

――แล้วได้ก้าวข้ามความยากที่ว่านั่นไปอย่างไรครับ?
     ในระหว่างถ่ายทำ ผมได้รับคำแนะนำจากอิวานากะ ฮิโรอากิซังที่ผ่านผลงานการแสดงมามากมายครับ ถึงจะเป็นอิวานากะซังที่รับบทเป็นนิฮงโกที่มีความน่าเกรงขาม แต่เขาก็สอนอะไรๆผมอย่างใจดีเสมอ รู้สึกขอบคุณมากเลยล่ะครับ และเพราะเลเวลในเรื่องการต่อสู้โดยใช้ดาบของทุกคนสูงมาก ดังนั้นพอมีเวลาว่างระหว่างรอเข้าฉากก็จะมีการซ้อมการใช้ดาบให้กับผมที่เป็นมือใหม่ด้วยครับ ดังนั้นผมจึงตั้งใจพยายามทำในสิ่งที่ผมสามารถทำได้ให้ได้มากที่สุด

――ก็เลยเกิดความรู้สึกของการเป็นทีมที่ดีขึ้นมาสินะครับ
       ถึงแม้ในการถ่ายทำจะใช้เวลานาน จะหนาวมาก หรือเจอกับความยากลำบากทางร่างกายในฉากการต่อสู้หนักๆ พวกเราก็ไม่ลืมที่จะหัวเราะครับ และเพราะพวกเราทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันนี่แหล่ะ ก็เลยทำให้ข้ามผ่านเรื่องที่ยากลำบากไปได้

――แล้วตอนนี้ภาพยนตร์ก็ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในฐานะโทวเคนดันชิ รู้สึกภูมิใจไหมครับ?
     พอผมได้ลองพยายามอย่างเต็มที่ทั้งๆที่มีความกังวลอยู่แล้ว ตอนนี้ผมสามารถยืดอกพูดได้อย่างภูมิใจเลยว่า “นี่คือ『TOUKEN RANBU THE MOVIE』!”  ผมมีความมั่นใจ และอยากให้หลายๆคนได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

――สมมติว่าถ้าซาดาโมโตะคุงสามารถย้อนเวลากลับไปได้เหมือนอย่าง『TOUKEN RANBU』อยากจะไปยุคสมัยไหน ไปพบใคร และอยากทำอะไรครับ?
     ผมชอบหนังเรื่อง 『ALWAYS 三丁目の夕日 (ถนนสายนี้ หัวใจไม่เคยลืม) 』มากเลยครับ เพราะงั้นก็เลยอยากลองย้อนเวลากลับไปโตเกียวเมื่อปีโชวะที่ 30 ซึ่งเป็นยุคที่มีชีวิตชีวามากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างคนก็ยังมีความแน่นแฟ้นมากอีกด้วยครับ

――ซาดาโมโตะคุง ชอบคนเหรอครับ?
     ตัวผมที่ถึงแม้จะเป็นประเภทที่เข้าหาคนอื่นไม่เก่ง แต่ก็ยังอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนนั้น ถึงบางครั้งจะมีบ้างที่รู้สึกไม่ค่อยถูกโรคกับบางคน แต่ผมก็ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นนะครับ เพราะงั้นผมก็เลยมีความใฝ่ฝันว่าถ้ามีคุณลุงคุณป้าจอมจุ้นจ้านอยู่แถวใกล้ๆบ้านผมบ้างก็คงจะดี (หัวเราะ)

――แล้วซาดาโมโตะคุงที่เป็นแบบนั้น สนิทกับนักแสดงใน『TOUKEN RANBU THE MOVIE』แล้วรึยังครับ?
     หลังจากถ่ายทำกันเสร็จแล้ว ผมก็ไม่ค่อยได้เจอทุกคนเลยครับ แต่กับอารามากิซังที่หลังจากถ่ายภาพยนตร์กันเสร็จพวกเราก็ยังได้แสดงบุไตร่วมกันอีกนั้น พวกเราชอบเล่นเกมส์เหมือนกัน ก็เลยได้คุยกันผ่านการเล่นเกมระหว่างที่อยู่บ้านของตัวเองด้วยครับ แล้วก็กับคิตามูระ เรียวคุงนั้น เพราะสถานที่ซ้อมเราอยู่ที่เดียวกัน นาน ๆ ครั้งก็เลยได้เจอกันบ้าง แต่ตอนเจอกันเราก็กอดกันอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ (หัวเราะ) ถึงแม้พวกเราจะอยู่ด้วยกันแค่ประมาณ 1 เดือนก็จริง แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเมมเบอร์ใน 『TOUKEN RANBU THE MOVIE』อย่างมากเลยล่ะครับ!

 

แหล่งที่มา https://rankingbox.jp/article/64127

 

==================
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจ้า

เกี่ยวกับ yukino_yukitty

✿ติ่ง2.5 บล๊อกเวิ่น บล๊อกแปล (แปลบ้างไม่แปลบ้างแล้วแต่อารมณ์)
เรื่องนี้ถูกเขียนใน Uncategorized และติดป้ายกำกับ , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น