มาจะกล่าวบทไป ถึงเรื่องราวบุไตดาบ เสตจจิเดน ฉบับยาวเยื้อยยยยยย!? (สปอยหนักมาก!!!)

main450x330

!!!!!SPOILER ALERT!!!!!

คำเตือน : บทความที่ท่านจะได้อ่านดังต่อไปนี้ มีความสปอยขั้นสูงสุด
สปอยแบบหมดเนื้อหมดตัว สปอยละเอียดยิบ สปอยเละ สปอยแหลกลาญ
สปอยอย่างแรง สปอยทั้งเรื่องงงงงงงงงงงงงงงงง!!!

หากยังไม่ได้ชมบุไตดาบเสตจจิเดน แล้วกำลังตั้งตารอชมในแผ่น
หรือใครที่ซีเรียสเรื่องสปอยมากๆ กรุณากดออกนะคะ (ไหว้ _人_ )
อดใจไม่อ่านสปอย แล้วมาอ่านอีกทีหลังดูมาแล้วก็ได้นะ

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า พอดูบุไตจบเราก็แชทเมาท์มอยให้เพื่อนฟังเลย
เมาท์ตั้งแต่ที่ความทรงจำยังสดๆใหม่ๆ ก็เลยจำฉากโน้นฉากนี้ได้เต็มไปหมด >”<
ทีนี้เลยคิดว่าเอาที่เมาท์ๆกับเพื่อน มาเขียนสรุปลงบล๊อกอีกทีดีกว่า
พอเขียนๆไปก็นึกโน่นนึกนี่ออกขึ้นมา กลายเป็นว่ายาวเยื้อย 55555
สำหรับเนื้อเรื่อง และบทสนทนา….เราอาศัยอ่านจากเรโปะคนญี่ปุ่นบ้าง
รื้อฟื้นจากความทรงจำของตัวเองบ้าง เอามาประกอบๆกัน
ดังนั้นมันจึงไม่เป๊ะๆ หรืออาจจะมีผิดพลาดบ้าง 😅
(อ้อ! รอบที่เราไปดู คือที่โอซาก้า เลยจะเป็นโฮเนะบามินะ)

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

**จะเริ่มสปอยแล้วนะ**

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

โทวเคนรันบุ ฮาจิเมโย่ว~~

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.
舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむ
舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむ、大千秋楽公演がテレビ初放送 | SPICE - エンタメ特化型情報メディア スパイス

ณ โลกที่ถูกละทิ้ง เส้นทางสู่จูราคุเทย์ที่ประวัติศาตร์ถูกเปลี่ยนแปลงจะเปิดออกชั่วคราว
แต่ละฮงมารุจะต้องจัดหน่วยทัพ และเริ่มการสำรวจ โดยเริ่มจากด้านนอกจูราคุเทย์ในปี 1590
…..

เปิดเรื่องมาเป็นภาพวิดิโอฉายฉากที่เหล่าโทเคนดันชิไปออกรบที่จูราคุเทย์
โดยมีฮาเซเบะเป็นหัวหน้าทัพ ตามด้วยไดฮันเนีย สึรุมารุ พี่เห็ด ฮากาตะ และโดดานุกิ
แล้วก็ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี เหล่าโทเคนดันชิสามารถจัดการศัตรูได้หมดสิ้น
จนได้เจอกับผู้ตรวจการ ซึ่งก็คือ “ยามัมบะกิริ โจกิ” ในที่สุด

舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむ」ゲネプロレポート
ここから始めようか
まだ知らない 日々は常に 移りゆく~~~ 🎤

ตัดมาที่เพลงเปิด ให้ฟีลฮานามารุ ฮงมารุหรรษา ฮงมารุ ไฮสคูล เดอะ มิวสิเคิล 5555
เพลงมีความน่ารักสดใสมากกกกกกก แหวกแนวจากเสตจก่อนๆไปเลย
ทุกคนออกมาในชุดอุจิบังแบบรูปด้านบนเลย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก
ท่าเต้นน่ารักๆกับรอยยิ้มของหนุ่มๆ ทำให้เราดูแล้วอารมณ์เบิกบานไปด้วย (>w<)
น่ารักมากจริงๆ ฮื่ออออออออออออออออออ~~~~~❤❤

พอเปิดม่านมาอีกทีก็เป็นโกะโคไทที่กำลังหาของอยู่
แล้วไปเจอนันเซ็นที่แอบอู้ นอนคว่ำก้นกระดกอยู่กลางเวที 5555
(น่ารักมากกกกกกกกกกกกก >___< เหมือนแมวเลย (ก็แมวอ่ะเนอะ!! 😺)
โกะโคไทตกใจนันเซ็น เลยวิ่งหนีไป สวนกับมุตสึที่เดินเข้ามาพอดี
พอมุตสึเห็นนันเซ็นก็แซวว่าแอบอู้งานเรอะ น้องก็ว่าไม่ได้อู้สักหน่อย นอนกลิ้งเล่นเฉยๆ 55
(คือพวกมุตสึ นันเซ็น โอเดนตะ แล้วก็โซฮายะเป็นเวรขนของ🤣)
คุยๆกันไปพอรู้ว่ามีดาบใหม่มา นันเซ็นก็ดีใจบอกว่าจะได้เป็นรุ่นพี่แล้วสินะ
หารู้ไม่ว่าดาบใหม่ที่กำลังพูดถึงอยู่นั่นคือโจกิ

ทางฮาเซเบะพอรู้ว่าผู้ตรวจการคือ ‘ยามัมบะกิริ โจกิ’ ก็หน้าดำคร่ำเครียด
พี่เห็ดกับโดดานุกิก็งง ไม่เข้าใจว่าฮาเซเบะกำลังเป็นกังวลเรื่องอะไรอยู่
แล้วไดฮันเนียก็พาโจกิเดินเข้ามาทักทายแป๊บนึง ก่อนจะพาไปหามิทจังที่อยู่ในครัว
พอมาเอดะถามว่า ดาบเล่มเมื่อกี๊คือ…. ก็มีเสียงสึรุดังแทรกขึ้นมาจากไหนไม่รู้
อธิบายว่านั่นคือ ยามัมบะกิริ โจกิ เป็นดาบต้นแบบของมัมบะไง
ทุกคนก็พากันหันซ้ายหันขวาหาต้นตอเสียงว่ามาจากไหน
สรุปว่าสึรุมารุโผล่มาจากพื้นบ้านจ้า ทุกคนพากันเตลิดตกใจ 55555

รูปภาพ© digitarou

คุยๆกันสักพัก พี่เห็ดก็บอกว่าให้เชื่อใจมัมบะเถอะ แต่ฮาเซเบะยังไม่เลิกกังวล
บอกว่ามัมบะเป็นดาบเลขา ถ้ามัมบะเป็นไรขึ้นมาอีกมันจะกระทบไปถึงอารุจิด้วย
ถ้ามัมบะเกิดพลิกกลับตาลปัตรไปเป็นมัมบะเมื่อก่อนล่ะจะทำยังไง!!!
สุดท้ายพอทั้งสองคนเห็นว่าฮาเซเบะจริงจังกับเรื่องนี้มากก็เถียงไม่ออก
เลยตกลงกันว่าจะพยายามไม่ให้มัมบะกับโจกิเจอกันไปจนกว่ามัมบะจะพร้อมจริงๆ

ระหว่างที่คุยๆกันอยู่พวกจิโร่ก็พาโจกิเข้ามา กะจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ดาบใหม่กัน
ประจวบกับที่มัมบะกับโฮเนะไปร้านค้ากลับมาพอดี มัมบะกำลังจะเจอกับโจกิ…
พอฮาเซเบะเห็น พี่แกก็รีบคว้าผ้าคลุมของโจกิขึ้นมาคลุมหัวโจกิ “ฟึ่บ!” ด้วยความไวแสง
(อันนี้จังหวะซิทคอมมาก 5555555 โคตรฮา 😂 โจกิยืนตัวแข็งทื่อเลย คงงง 5555)
มัมบะก็งง ขมวดคิ้วถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้น?” ทั้งสามคนก็แก้ตัวกันสุดฤทธิ์
พอโจกิจะเอาผ้าคลุมออก ฮาเซเบะก็ร้องลั่น เอาผ้าคลุมคุลมหัวโจกิกลับที่เดิม 555

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむ

มัมบะพยายามจะเดินเข้าไปดู ถามว่าหมอนั่นใคร? ก็โดนขวางไว้อีก
ได้คำตอบแค่ว่าเป็นผู้ตรวจการตอนไปลุยจูราคุเทย์ เป็นดาบใหม่ที่รัฐบาลส่งมา
แล้วสุดท้ายโจกิก็ถูกลากออกไปทั้งๆที่ผ้ายังคลุมหัวอยู่แบบนั้นเลย 55555

ฮาเซเบะกับพี่เห็ดพากันเดินห่างออกมาซุบซิบว่าจะเอาไงดี ควรบอกมัมบะไหม
ฮาเซเบะก็โอเค บอกก็บอกวะ เดินดุ่มๆเข้าไปหามัมบะด้วยสีหน้าจริงจัง
ฮาเซเบะ “ยามัมบะกิริ!!! ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย!!”
มัมบะ “อะไรรึ?”
ฮาเซเบะ “อะ…เอ่อ….เรื่องนั้นน่ะ….เอ่อ…ไปกินทาโกยากิกัน!!!!
555555555555555555555555

พอพี่เห็ดจะไปบอกมั่ง ก็พูดไม่ออกอีก เป็นแบบนี้อยู่สามสี่รอบได้
สุดท้ายก็พูดกันไม่ออก มัมบะเลยเลิกสนใจ เดินหนีออกไป
ทิ้งให้ฮาเซเบะกับพี่เห็ดซุบซิบเป็นบ้ากันสองคน 😂 พอตัดสินใจได้เฮือกสุดท้าย
กำลังจะหันมาหามัมบะ แต่เจอโฮเนะบามิแทนก็ตกใจว่า มัมบะไปไหนแล้ว!!? 555

ตัดภาพมาที่โดดานุกิ พี่แกรีบตามมาเจอโจกิที่โดนพวกจิโร่ลากมาปาร์ตี้
แต่โจกิปฏิเสธไม่ดื่ม แล้วถามหาดาบเลขาของฮงมารุแห่งนี้ว่าอยู่ไหน เขาจะไปทักทายหน่อย
พออุกุยสุมารุจะพูดชื่อมัมบะขึ้นมา โดดานุกิก็กระโดดตะครุบปากอย่างไว
สักพักมัมบะก็เดินเข้ามา จะเจอกับโจกิอีก โดดานุกิเห็นก็ร้องลั่นบ้าน
รีบคว้าผ้าคลุมโจกิขึ้นมาคลุมหัวโจกิ “ฟึ่บ!” เหมือนที่ฮาเซเบะทำอีก 555555
แล้วพี่เห็ดกับฮาเซเบะที่ตามมัมบะมาติดๆก็รีบพุ่งเข้ามาลากมัมบะออกไป
เป็นงี๊สองสามรอบได้ พี่เห็ดกับฮาเซเบะทั้งลาก ทั้งอุ้มมัมบะออกไปเลย 😂

รูปภาพ© digitarou

ทีนี้โจกิก็เริ่มหงุดหงิดคิ้วกระตุกล๊ะ 5555 ถามว่า “ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว…..
ไอ้ที่เอาผ้าคลุมมา ฟึ่บ!! คลุมหัวข้าหลายต่อหลายครั้งเนี่ยมันหมายความว่ายังไง!!? “
โดดานุกิก็ลนลาน เฉไฉไปว่า “เอ่อ…ม….มันกำลังฮิตไง!! นุโนะบาสะอ่ะ!!”
ทุกคนก็แบบนุโนะบาสะอะไรของนาย? ไม่เห็นเคยได้ยินเลย
โดดานุกิเลยแถไปว่า “ม….มันฮิตของข้าคนเดียวไง” 5555

ทีนี้โอคาเนะฮิระที่นั่งดื่มมาได้สักพักก็เริ่มเมา อุกุยบอกว่าหมอนี่ยิ่งเมาก็ยิ่งใหญ่ขึ้นนะ
ตอนแรกทุกคนก็งงว่าอะไรใหญ่ขึ้น? หมายความว่ายังไง? 😂
สรุปก็คือ โอคาเนะฮิระเมาแล้วเล่นใหญ่ขึ้น 55555 ท่าทางจัดเต็มสุดๆ
เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์มาก ลีลาท่าทางเย๊อะ จะพูดอะไรต้องมีท่าทางประกอบ
แล้วก็เสียงดังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 😂😂

戦いの間(あわい),刀剣男士たちが息づく本丸のもうひとつの姿とは――「舞台『刀剣乱舞』慈伝 日々の葉よ散るらむ」ゲネプロレポート

โอคาเนะฮิระโวยวายว่าแล้วทำไมข้าถึงไม่มีผ้าคลุมกับเขาบ้าง อยากได้ผ้าคลุมมมมม
แล้วก็เข้าไปเกาะแข้งเกาะขาโจกิ ไปดึงผ้าคลุมเขา จะเอาผ้าคลุมให้ได้ 555555555
สุดท้ายก็ตะโกนซะดังลั่นว่า “ข้าจะไปหาผ้ามาคลุมมมมมมมม
จริงสิ งั้นข้าจะไปขอยืมผ้าคลุมของยามัมบะกิริ คุนิฮิโระก็ได้!!”

แล้วโอคาเนะฮิระก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่โดดานุกิขัดขึ้น
โดดานุกิ “เดี๋ยวก่อน เมื่อกี๊นายพูดว่าอะไรนะ!!!!!?”
โอคาเนะฮิระ “ข้าจะไปขอยืมผ้าคลุม!!!!”
โดดานุกิ “ไม่ใช่!! ประโยคหลังจากนั้นสิ”
โอคาเนะฮิระ “ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระไง!!! ข้าจะไปยืมผ้าคลุมของยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ!!!!”
โดดานุกิก็ช็อค “พูดออกมาจนได้!!!!!!!!!!!!”
เพราะโอคาเนะฮิระพูดชื่อมัมบะต่อหน้าโจกิเลย

โจกิเลยถึงบางอ้อ
“อย่างนี้เอง…ก็ว่าทำไมมันแปลกๆ พวกเจ้าพยายามไม่ให้พวกเราเจอกันอย่างนั้นสินะ”
ข้ารู้แล้วว่าดาบเลขาของฮงมารุแห่งนี้คือใคร ที่นี่น่ะ…มีของปลอมคุงอยู่สินะ
ความจริงแล้วโจกิรู้มาจากรัฐบาลอยู่แล้วว่าที่ฮงมารุแห่งนี้มียามัมบะกิริ คุนิฮิโระอยู่…

ทุกคนก็อึ้งที่โจกิเรียกมัมบะว่าของปลอมคุง แล้วโดดานุกิก็บอกว่ามัมบะไม่ใช่ของเลียนแบบนะ
เลิกเรียกมัมบะว่าของปลอมอะไรนั่นซะ โดดานุกิยอมคุกเข่าลงตรงหน้าโจกิเลย
ขอร้องโจกิไม่ให้เรียกมัมบะว่าของปลอม เพราะมัมบะเป็นดาบเลขาของฮงมารุแห่งนี้
ไม่อยากให้หมอนั่นต้องมีเรื่องอะไรมาทำให้วุ่นวายอีก

โจกิก็แบบ “งั้นให้ข้าเรียกว่าอะไรถึงจะดีล่ะ…
ในเมื่อยามัมบะกิริก็คือข้า เรียกหมอนั่นว่าของปลอมมันก็เพียงพอแล้ว”

คือยังไงโจกิก็จะเรียกมัมบะว่าของปลอมอยู่ดี โดดานุกิเลยของขึ้นจะเข้าไปหาเรื่องโจกิ
แต่พวกจิโร่ ฮากาตะ ไดฮันเนียเข้ามาห้ามไว้ แต่โจกิก็ยังยืนยันว่าจะเรียกมัมบะว่าของปลอมคุง
บอกประมาณว่า “ของปลอมก็คือของปลอม มันจะเป็นอะไรได้มากกว่าของปลอมงั้นเรอะ”
โดดานุกิเลยยิ่งยั๊วะจนเรื่องเกือบบานปลาย สุดท้ายทาโร่เลยเอ่ยเสียงดุเพื่อห้ามโดดานุกิ
ว่านี่มันงานเลี้ยงต้อนรับดาบใหม่ไม่ใช่รึ แล้วที่ทำอยู่นี่มันใช่บรรยากาศงานเลี้ยงรึ
สุดท้ายทุกคนเลยถูกทำให้สงบใจลงด้วยการที่ทาโร่ดีดซามิเซ็ง และจิโร่โชว์รำพัด
โจกิก็ดูเหมือนจะสงบลงสักพัก แต่สุดท้ายก็บอกว่าขอตัวไปตามหาของปลอมคุงก่อน
โดดานุกิก็รีบตามไปด้วยความโมโห ทุกคนเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบตามโดดานุกิกับโจกิไปอีก

ทางมัมบะก็กำลังตามหาผู้ตรวจการอยู่เหมือนกัน เพราะเห็นว่าเป็นคนจากรัฐบาล
เขาเป็นดาบเลขาเลยต้องไปต้อนรับ (ก็คือมัมบะก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน)
ฮาเซเบะกับพี่เห็ดตามมัมบะมาติดๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลนกันมาก
มัมบะจับพิรุธได้ เลยถามไปว่าพวกนายกำลังปกปิดอะไรฉันอยู่?
เจ้าผู้ตรวจการนั่นคือยังไงกันแน่ แต่ฮาเซเบะก็พยายามเลี่ยงไม่ตอบคำถาม
ฮาเซเบะ “โทษที ช่วยพูดภาษาญี่ปุ่นหน่อยได้มั้ย”
มัมบะ “ฉันก็พูดภาษาญี่ปุ่นอยู่ไม่ใช่รึไง!” 😂😂

พี่เห็ดเลยบอกฮาเซเบะว่าพอเถอะ มาถึงตรงนี้แล้วก็บอกๆไปเถอะน่า
ฮาเซเบะเลยตัดสินใจจะบอกว่าดาบใหม่ที่มานั่นคือ ยามัมบะกิริ โจกิ
แต่ก็พูดได้แค่ “หมอนั่นคือยามัมบะกิริ……” แล้วก็พูดต่อไม่ออก
“ยามัมบะกิริ โจะ…. โจะ…โจะ..โจะ..โจวชิวะโดเดสก๊ะ”
(แปลว่า วันนี้เป็นยังไงบ้าง?) 😂😂

มัมบะถอนหายใจ “ฉันรู้แล้วล่ะ…ว่าพวกนายปิดบังอะไรอยู่”
สองคนนั้นก็แบบ อ้าว  รู้แล้วเรอะ!?! โธ่ อุตส่าห์พยายามนะเนี่ย 555555
แต่มัมบะกลับบอกว่า ผู้ตรวจการนั่นคือ สึรุมารุ คุนินากะ ล่ะสินะ 😂
ทั้งสองคนคือหน้าเอ๋อไปเลย แล้วฮาเซเบะก็ดันบอกว่าใช่อีก
“ใช่! สึรึมารุนี่ตัวปัญหามากเลย นานๆทีนายไปตักเตือนหน่อยเหอะ” 555
พอมัมบะเดินออกไป พี่เห็ดก็รีบถามฮาเซเบะว่าทำไมไปโกหกแบบนั้นเล่า!?!
นี่จำเป็นต้องโกหกไปถึงขนาดนั้นเลยเรอะ??? ฮาเซเบะก็โพล่งออกมาว่า
“ถ้าเป็นยามัมบะกิริ คุนิฮิโระเมื่อก่อนล่ะก็!! เราคงไม่ต้องทำเรื่องอะไรแบบนี้หรอก
แต่หลังจากที่เกิดเรื่องนั้น…ใจของ
หมอนั่นก็มักจะเลื่อนลอยไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง…”
พี่เห็ด “จริงอยู่ที่เคียวไดน่ะ ยังคงเสียใจกับเรื่องนั้นมาตลอด…”
ฮาเซเบะ “เรื่องนั้นน่ะไม่ได้เป็นปัญหาของยามัมบะกิริ คุนิฮิโระคนเดียว
มันคือสิ่งที่พวกเราที่อยู่ฮงมารุทุกคนควรจะแบกรับมันด้วยเช่นกัน
แต่หมอนั่นกลับพยายามที่จะแบกรับมันไว้คนเดียว…”

แล้วโซฮายะ กับโอเดนตะก็เดินเข้ามา
สองคนนี้รู้ว่าฮาเซเบะกับพี่เห็ดกำลังทำอะไรอยู่ โซฮายะเลยบอกว่า
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกมัมบะว่า เป็นของก๊อปปี้ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่
จะเริ่มจากการเป็นของเลียนแบบก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย
มันอยู่ที่ว่าต่อจากนี้เราจะสร้างเรื่องราวของตนออกมายังไงต่างหาก
เขาคิดว่ามัมบะในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก
ฮาเซเบะกับพี่เห็ดเลยตัดสินใจกันว่าจะไปบอกความจริงกับมัมบะจริงๆล๊ะ

でじたろう@ニトロプラス on Twitter: "七夜連続生配信の最後を飾る「舞台『刀剣乱舞』慈伝  日日の葉よ散るらむ」をご覧の皆さま、ありがとうございました。悲伝を乗り越えた本丸の結束力や素敵な日常が伝わってくる、刀ステの新たな魅力を表現したお話でした。刀剣男士  ...

ทางด้านโจกิที่กำลังตามหามัมบะอยู่ ได้เดินไปเจอนันเซ็นที่กำลังนอนหลับปุ๋ยก็ยิ้ม
เดินเข้าไปเอานิ้วจิ้มๆ “เฮ้” “ตื่น” “ตื่นสิ”  ฮื่อออ น่ารักไม่ไหวแล้วววว ว >[♥]<!!!
พอนันเซ็นตื่นเห็นว่าเป็นโจกิก็ตกใจกระโดดดึ๋ง 555 ตกใจว่าทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้
แล้วทั้งสองคนก็แง้วๆใส่กัน 👹💥🐱
โจกิ “ไม่นึกเลยนะว่าจะได้มาพบกับเนโกะโคโรชิคุงที่นี่อีก”
นันเซ็น “หนวกหูน่า! ถึงจะเคยรู้จักกันแต่ฉันก็ไม่อยากเจอนายหรอกนะ!!”
โจกิ “เห…นั่นน่ะคงเป็นเพราะความแตกต่างของสิ่งที่ฟันล่ะสินะ
ข้าเข้าใจดี ก็แมวกับยามัมบะนี่นะ”
นันเซ็น “เพราะนิสัยนายเป็นแบบนี้ไงเล่า เมี๊ยว!….
อา…จริงสิ นายเองก็โดนสาปเหมือนกันนี่นะ”
โจกิ “โดนสาป? ไม่เกี่ยวเสียหน่อย แต่ยังไงข้าก็เป็นดาบที่ฟันปีศาจล่ะนะ”
นันเซ็น “ฉันที่ฟันแมวเป็นแบบนี้…เพราะงั้น
นายที่ฟันปีศาจ หัวใจก็กลายเป็นปีศาจไปเหมือนกัน เมี๊ยวววว!!”
โจกิ “ท้ายประโยคยังพูดเป็นแมวอยู่เลย ถึงจะขู่ไปก็มีแต่จะน่ารักเท่านั้นล่ะนะ”
นันเซ็น “เมี๊ยววววววว!!”
โจกิ “อ้าว นี่โดนสาปจนพูดไม่เป็นคำเลยเหรอเนี่ย”
นันเซ็น “เมี๊ยววววววว!!”
โจกิ “ฮ่าๆๆๆๆ”
นันเซ็น “อะไรของนาย”
โจกิ “เปล่าหรอก…เจ้าน่ะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ….สบายใจขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ
นันเซ็น “(=”=)?”

แล้วโฮเนะก็เดินเข้ามา โจกิเลยถามหามัมบะ
พอเห็นโฮเนะไม่ตอบ โจกิก็ว่า “ช่างเถอะ” แล้วเดินออกไปตามหามัมบะต่อ
นันเซ็นเห็นแบบนั้นเลยขอให้โฮเนะมาเปลี่ยนเวรขนของกับตัวเองหน่อย
เพราะยังไงซะเขากับโจกิก็รู้จักกันมาก่อน แล้วตัวเองก็นับเป็นรุ่นพี่ด้วย
ต้องคอยไปดูไม่ให้หมอนั่นทำเรื่องยุ่งยากล่ะนะ พูดจบก็วิ่งตามโจกิไป

โดดานุกิวิ่งหน้าตั้งเข้ามา เจอโฮเนะยืนอยู่ก็ถามว่า เห็นยามัมบะกิริไหม
โฮเนะก็ “ยามัมบะกิริ โจกิน่ะเหรอ? เดินไปทางโน้นแล้วล่ะ”
พอโดดานุกิทำท่าจะวิ่งไปตาม โฮเนะก็บอกว่าเดี๋ยวก่อน
โดดานุกิ “มีอะไรเรอะ บามิ”
โฮเนะ “ก็คิดมาตั้งนานแล้วล่ะนะ ที่เรียกฉันว่า “บามิ” นั่นน่ะ….”
โดดานุกิ “ดีกว่าเรียกว่า โฮเนะ ไม่ใช่รึไง”
โฮเนะ “ถ้างั้น…ฉันเรียกนายว่า ทานุกิ นะ”
โดดานุกิ “ห๊ะ…แล้วนี่มันใช่เวลาจะมาพูดเรื่องนี้มั้ยเนี่ย!!!?”
แล้วโดดานุกิก็วิ่งตามโจกิไปอีกคน

ตัดภาพมาที่สึรุซึ่งกำลังช่วยหาของให้โกะโคไท (คือโกะโคไทหาของมาตั้งแต่เริ่มเสตจแล้ว
แต่น้องไม่ยอมบอกใครว่ากำลังหาอะไรอยู่ บอกแค่ว่า ขนาดประมาณนี้ๆ ทุกคนเลยช่วยกันหา)
สึรุไปเห็นลังไม้ที่พวกโอเดนตะขนมาวางอยู่กองนึง ข้างบนลังมีผ้าสีขาวคลุมอยู่
เลยเข้าไปมุดๆหาของ แต่ก็ไม่เจอ พอลมพัดมาจนรู้สึกหนาว ก็เลยเอาผ้ามาคลุมหัวตัวเองไว้

บังเอิ๊นนนน โจกิที่กำลังตามหามัมบะอยู่ มาเจอเข้ากับสึรุที่เอาผ้าสีขาวคลุมหัวอยู่พอดี
โจกิเลยเข้าใจว่าเป็นมัมบะ “เจอตัวสักที!! มีผ้าคลุมแบบนี้ไม่ผิดแน่ ของปลอมคุง!”
(จากคำพูดของโอคาเนะฮิระที่บอกว่าเขาจะไปยืมผ้าคลุมจากมัมบะ
โจกิเลยคิดว่า มัมบะที่เป็นของเลียนแบบเขาจะต้องมีผ้าคลุม 5555)

でじたろう@ニトロプラス on Twitter: "刀ステ慈伝のゲネプロ記録写真その肆。続く https://t.co/0sCuYc9d6i" /  Twitter

สึรุรู้แล้วว่าโดนเข้าใจผิด แต่ด้วยนิสัยพี่แก เลยทำการแกล้งตีเนียนทำตัวเป็นมัมบะต่อไป
สึรุ “ข้าชื่อยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ!!!! ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของ นางาโอะ อากินางะ
เจ้าของปราสาทอาชิคากะโดยจำลองจากดาบยามัมบะกิริ”
โจกิ “หึ ดูปุ๊บเดียวก็รู้แล้ว!” 🤣🤣
แล้วพอโจกิเรียกว่า ของปลอมคุง สึรุก็ตอบ “ฉันไม่ใช่ของปลอมนะ!!” 55555

โจกิพยายามจะเข้าไปมองหน้า สึรุก็หลบหมุนตัว360องศาหลบหน้าโจกิเต็มที่
โจกิก็วนตาม 5555 ถามอีกฝ่ายว่าจะหมุนตัวทำไมห๊ะ สึรุก็ตีเนียนเป็นมัมบะต่อไป
โดยการพูดเลียนแบบมัมบะเป๊ะเลย อย่างบทแนะนำตัว หรือบทพูดที่ว่า
“อย่ามาบอกว่าข้างดงามอะไรนั่นนะ” โจกิก็งง “ไม่ได้พูดสักหน่อย!!”
สึรุ “กำลังคาดหวังอะไรกับฉันอยู่กันแน่” โจกิ “พูดอะไรของนายเนี่ย!!??”
สึรุ “ไม่ชอบสายตานั่นเลยแฮะ” โจกิ “เจ้ายังไม่ได้มองสักหน่อยนี่!!!”
หมุนหลบหน้ากันสักพัก สึรุก็หยุดหมุน แต่ยังหันหลังให้โจกิอยู่ แล้วบอกว่า
“ไปล่ะ” (ที่เป็นบทพูดของมัมบะ) โจกิก็งงอีก ถามว่า “ไปไหน?”
สึรุ “ที่ที่ไกลแสนไกล” 5555555

แล้วสึรุก็เดินออกไปดื้อๆเลย โจกิก็แบบ อะไรของหมอนั่นเนี่ย!!
ตอนที่กำลังยืนงงอยู่นั่นเอง มัมบะตัวจริงก็ดันเดินเข้ามาพอดี
แต่คือมัมบะนึกว่าโจกิเป็นสึรุ ก็เลยทักไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดหน่อยๆว่า
“เจอตัวแล้ว!! ฉันรู้แผนนายหมดแล้วสึรุมารุ คิดจะทำให้ฉันประหลาดใจอีกแล้วสินะ”
โจกิ “ทำให้ประหลาดใจ?”
มัมบะ “อย่ามาใช้เสียงแปลกๆนะ!”
โจกิ “ห๊ะ O[]O!!”
มัมบะ “ยังอุตส่าห์ไปเปลี่ยนทรงผมมาอีกนะนาย!!”
โจกิ “เอ๊ะ O[  ]O!!” คือโจกิงงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่??
มัมบะเดินเข้าไปประชิดโจกิ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “หันหน้ามานี่”
โจกิยืนตัวแข็งทื่อเลย จับต้นชนปลายไม่ถูก แล้วก็ไม่ยอมหันหน้ามาทางมัมบะ
เพราะรังสีอาฆาตของมัมบะแรงกล้ามากจนไม่กล้าหัน 555

โจกิพยายามหลบ มัมบะก็หันตาม จนมัมบะคว้าไหล่ จะทักคิดว่าเป็นสึรุ
“บอกให้หันหน้ามานี่ไง สึรุมารุ คุนินา……เอ๋ะะะะะะ!?”

แล้วยามัมบะกิริทั้งสองเล่มก็เจอกัน
(เป็นการเจอกันที่จังหวะซิทคอมมาก 555555555)

でじたろう@ニトロプラス on Twitter: "刀ステ慈伝のゲネプロ記録写真その肆。続く https://t.co/0sCuYc9d6i" /  Twitter

ทั้งสองมองหน้ากันอึ้งไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างเอียงคอสงสัย จนโจกิถามแบบงงๆว่านายเป็นใคร?
มัมบะเลยแนะนำตัวแบบงงๆเหมือนกัน “ฉันคือ…ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ”

โจกิก็ตกใจตาโต “แล้วเมื่อกี๊ข้าเจอใครฟะ!!!” 😂😂 ก่อนจะหันมาหามัมบะ
ทำเสียงอะแฮ่มๆเรียกลุคส์ตัวเองกลับมาเก๊กมาดขรึม 55555 แล้วแนะนำตัวเอง

พอมัมบะรู้ว่าคนตรงหน้าคือ โจกิ ก็ช็อคไปเลย เพราะโดนโจกิเรียกว่าของปลอมคุงด้วย….

ทีนี้ทุกคนในฮงมารุพอตามมาเจอทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ตกใจ
พยายามพูดไม่ให้มัมบะคิดมาก โจกิเห็นแบบนั้นก็เริ่มปากร้าย

บอกประมานว่า ฮงมารุแห่งนี้น่าสงสารนักที่มีของปลอมเป็นดาบเลขา
เข้าใจแล้วว่าทำไมข้าถึงได้ถูกส่งมาที่นี่ เพราะที่นี่รู้จักแต่ของปลอมล่ะสินะ
มัมบะก็แบบ “ฉันไม่ใช่ของปลอม…” แต่พูดไปก็จับผ้าคลุมก้มหน้างุดๆไป
นันเซ็นพยายามห้าม แต่โจกิก็ยังไม่เลิก  บอกว่า ยามัมบะกิริของจริงคือข้าต่างหาก
ทำไมคนในฮงมารุนี้ถึงเรียกของปลอมว่ายามัมบะกิริ ทำไมของปลอมถึงเป็นดาบเลขาได้
มัมบะก็ก้มหน้าอย่างเดียวเลย โดดานุกิเลยทนไม่ไหวจะเข้าไปหาเรื่องโจกิอีก
เหตุการณ์เริ่มชุลมุนขึ้น จนไดฮันเนียหัวเราะเสียงดังแทรกขึ้นจนทุกคนหยุดหันไปมอง

ไดฮันเนียหัวเราะแล้วบอกว่า “ข้าชักจะรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้วสิ”
ทาโร่ “อะไรที่สนุกงั้นรึ?”
ไดฮันเนีย “ทุกคนเอง…ตอนมาที่ฮงมารุแห่งนี้ใหม่ๆก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันใช่ไหมเล่า
พวกเราต่างมีพื้นเพเดิมเป็นเพียงดาบเล่มหนึ่ง แต่ระหว่างที่ได้ดำเนินชีวิตไป ณ ฮงมารุแห่งนี้
เรื่องราวใหม่ๆก็ได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งนั้นมันได้เรียงร้อยสัมพันธ์ของพวกเราเข้าด้วยกัน
จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นที่เห็นกันตอนนี้ ข้าเลยรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้ว…
ว่าต่อจากนี้เรื่องราวของยามัมบะกิริ โจกิ ณ ฮงมารุแห่งนี้จะเป็นเช่นไร
แล้วไดฮันเนียก็หันไปบอกโจกิว่า “พวกเราต่างเป็นโอซาฟุเนะเหมือนกัน
หากเจ้ามีเรื่องไม่สบายใจล่ะก็บอกข้าได้นะ ข้าจะช่วยเจ้าเอง”
โจกิก็อึ้งๆไป แต่ยังไม่ทันพูดก็โดนจิโร่ลากไปก๊งเหล้าตามเดิม 55555
แล้วทุกคนก็พากันไปปาร์ตี้ต่อ

พอทุกคนเดินออกไป มัมบะก็ก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง
“ฉันคือยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยจำลองมาจากดาบยามัมบะกิริ
ตามคำสั่งของ นางาโอะ อาคินากะ เจ้าของปราสาทอาชิคากะ
แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็ไม่ใช่ของปลอม…”
พี่เห็ด “เคียวไดน่ะ เป็นผลงานชิ้นเอกของคุนิฮิโระไงล่ะ”
มัมบะ “…ฉันตั้งใจว่าจะทิ้งคำว่าของเลียนแบบไปซะ
คิดเพียงแค่ว่าฉันคือดาบของนายท่าน เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว…
แต่หมอนั่น…กลับมาเรียกฉันว่าของปลอมซะได้…”
ฮาเซเบะ “นายไม่ต้องพูดแล้วก็ได้”
มัมบะ “ตอนที่เห็นหมอนั่นอยู่ตรงหน้า ตอนที่ถูกหมอนั่นเรียกว่าของปลอม
มันทำให้ฉันนึกถึงตัวเองเมื่อก่อนขึ้นมา
บางที…ฉันอาจจะยังคงยึดติดกับคำว่า ‘ของปลอม’ อยู่ก็เป็นได้
ไม่อย่างนั้น…หัวใจฉันก็คงไม่มีทางสั่นไหวแบบนี้…”
พูดจบมัมบะก็เดินก้มหน้าออกไป

ภาพตัดมาที่โอคาเนะฮิระที่ยังตามล่าหาผ้าคลุมด้วยอาการเมาหนัก 5555
จนไปเจอกับผ้าคลุมสีขาวที่สึรุเอามาทิ้งไว้
พอได้ผ้าคลุมแล้วก็ดีใจใหญ่ ไปหยิบเอามาคลุมตัว ทำท่าสะบัดผ้าอย่างเท่
เดินไปซ้ายทีขวาที สะบัดผ้าพรึ่บๆ ก่อนจะทำหน้าเซ็งโลกบอกว่า
“ไม่เข้าใจเลยว่ามันฮิตกันตรงไหนนนนนน!!!!!” //เอ็งบ้าไปแล้วเร๊อะ!!! 555
ทีนี้พอลมพัดมา โอคาเนะฮิระก็หนาว เลยเอาผ้ามาคลุมหัวแล้วนั่งลงเงียบๆ

พอดีกับที่พวกจิโร่ลากโจกิเข้ามาก๊งเหล้ากันต่อพอดี
พอเห็นโอคาเนะฮิระก็นึกว่าเป็นมัมบะเลยพากันทักว่ามาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย 😂
โอคาเนะฮิระ(ที่นั่งเอาผ้าคลุมหัวอยู่)ก็สะดุ้ง “ข้ารึยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ!?!”
แต่ก็เนียนตามน้ำดัดเสียงให้เล็กๆแกล้งเป็นมัมบะ ตอบไปว่า “โอ้ว” //น่าถีบมาก 555

ทีนี้พวกจิโร่ก็ชวนโจกิดื่ม โจกิก็ปฏิเสธบอกว่าเขาไม่ดื่มเหล้า
โดดานุกิก็แซะ “ไม่ดื่ม หรือ ดื่มไม่เป็นกันแน่ ทั้งๆที่ดื่มไม่เป็น แต่กลับบอกว่า ไม่ดื่ม…
คำว่าไม่ดื่ม กับ ดื่มไม่เป็นน่ะ ความหมายมันต่างกัน คงไม่อยากให้คนอื่นเห็นจุดอ่อนล่ะสิ”
คนอื่นก็พากันบอกว่าดื่มไม่เป็นก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เหมือนพยายามปกป้องโจกิกัน
แต่โดดานุกิก็ยังคงพูดต่อ “อย่างที่นายพูดนั่นแหล่ะ!! มัมบะน่ะเป็นของเลียนแบบ
แต่ช่วงเวลาที่หมอนั่นใช้ชีวิตในฮงมารุแห่งนี้ เขาไม่ใช่ของเลียนแบบใครทั้งนั้น!!
มัมบะน่ะ…เป็นดาบเลขาของฮงมารุแห่งนี้ คนที่ตัดสินใจเช่นนั้นก็คือนายท่าน
ดังนั้น!!! ถ้านายอยากอยู่ที่นี่ล่ะก็…นายก็ต้องยอมรับเรื่องนี้เอาไว้ซะ
แล้วพวกเราก็จะยอมรับนายเช่นกัน!!”

จิโร่ก็บอกกับโจกิว่า ที่นี่น่ะเป็นฮงมารุที่ดีนะ
โจกิก็หยุดคิด บอกว่า อาจเป็นอย่างที่เจ้าพูดก็ได้ ทุกคนที่นี่ดูรักใคร่กลมเกลียวกันดี
คงต่อสู้ปกป้องประวัติศาตร์แล้วแข็งแกร่งขึ้นได้แหล่ะนะ
ทุกคนก็แบบ “ใช่ไหมเล่า?”
โจกิ “แต่ยังไงซะ ข้าก็ยอมรับของปลอมคุงที่อยู่ที่นี่ไม่ได้อยู่ดี
ข้ายอมให้เจ้านั่นใช้ชื่อยามัมบะกิริที่เป็นชื่อของยามัมบะกิริของจริงไม่ได้”

โดดานุกิได้ฟังแล้วของขึ้น เดินไปหาโอคาเนะฮิระเพราะนึกว่าเป็นมัมบะ
บอกว่าทำไมไม่พูดอะไรบ้าง นายนิ่งเฉยทนฟังอยู่ได้ไง!!
โอคาเนะก็แบบตูไม่หัน ดึงผ้าเอาไว้ โดดานุกิพยายามกระชากยังไงก็ไม่หลุด
จนอุกุยเดินมาพอดี โอคาเนะฮิระเลยยื่นมือส่งสัญญาณขอให้ช่วยหน่อย
แต่อุกุยถอยหลังอย่างเร็ว ยกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่าตูไม่เกี่ยว 555555

รูปภาพ© digitarou

จนมัมบะตัวจริงเดินเข้ามา ถามว่าเรียกชื่อฉันทำไมนัก
โดดานุกิช็อค ตะโกนว่า “มัมบะมี2คน!!!” แล้วถามว่าแกเป็นใครกันแน่
โอคาเนะเลยเอาผ้าคลุมออกเผยตัว
โดดานุกิ “นายเองเรอะ!! แล้วเอาผ้ามาคลุมทำไมฟะ!!!!”
โอคาเนะ “ก็เจ้าบอกเองไม่ใช่เรอะว่ามันกำลังฮิตน่ะ!!!!” 555555
พอโจกิเห็นก็แบบ “เจ้าผ้าคลุมที่ข้าเจอเมื่อกี้เป็นเจ้าเองเรอะ!!!!!!!”
สึรุมารุเดินมาได้ยินพอดี แต่ก็ทำเฉไฉไม่รู้ไม่ชี้ 55555 //โคตรแสบ😂

ทีนี้จิโร่เลยเรียกมัมบะมาร่วมวงด้วย เรียกว่าลากคอมัมบะมาเลยดีกว่า 555
มัมบะกับโจกินั่งตรงข้ามกัน จ้องหน้ากันเขม็ง ไม่พูดจากันสักคำ
ทุกคนก็พากันจ้องสองคนนี่เขม็ง จนจิโร่บอกว่าเอ้า!อย่าเงียบกันแบบนี้สิ
พอเห็นยามัมบะกิริทั้งสองยังคงนั่งเงียบ สึรุ กับพี่เห็ดก็เลยเชียร์ให้สองคนนี้คุยกัน
ว่าทำไมไม่ทักทาย หรือพูดไรหน่อยล่ะ ถามเรื่องงานอดิเรกอีกฝ่ายก็ได้ 5555
แต่สองคนก็ยังนิ่ง จนฮากาตะบอกว่ารู้สึกถึงรังสีความเครียดที่แผ่ซ่านมาก

โจกิพอได้ยินคนเรียกชื่อยามัมบะกิริมากๆเข้า ก็ไม่สบอารมณ์
บอกว่าให้เลิกเรียกของปลอมคุงว่ายามัมบะกิริได้มั้ย! ยามัมบะกิริคือข้าต่างหาก
อุกุยก็แบบ เพราะยามัมบะกิริ คุนิฮิโระมาก่อนก็เลยเป็นยามัมบะกิริไงล่ะ
โจกิก็ยังไม่ยอมรับ บอกว่าแต่ตอนนี้เขาซึ่งเป็นยามัมบะกิริต้นแบบมาที่นี่แล้ว
ดังนั้นคนที่เหมาะสมที่จะให้เรียกชื่อยามัมบะกิริก็คือเขา
มัมบะ “เรื่องชื่อน่ะ จะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ”
โจกิ “เป็นของปลอมแต่พูดจาอวดดีซะจริงนะ” แล้วเอ่ยปากขอท้าสู้กับมัมบะ
“งั้นมาประลองกันหน่อยเป็นไง…
ผู้ที่ชนะจะได้ชื่อ ยามัมบะกิริ ไป”

แต่ก็มีคนค้านว่าโจกิเพิ่งจะมาที่ฮงมารุเอง ประสบการณ์การต่อสู้ก็ยังไม่มี
จะไปสู้ตัวต่อตัวกับมัมบะที่อยู่ฮงมารุแห่งนี้มานานแล้วได้ยังไง
โจกิก็บอกว่า ใครบอกว่าจะสู้คนเดียวล่ะ จะสู้แบบทีม6ต่อ6ต่างหาก
ถ้าหากมัมบะแพ้ ทุกคนต้องเลิกเรียกมัมบะว่ายามัมบะกิริ
แล้วก็ถามมัมบะว่าจะเอายังไง มัมบะบอกว่าเรื่องนี้ต้องถามนายท่านก่อน
พวกเราจะทำตามอำเภอใจกันเองไม่ได้
โจกิ “กลัวรึไง เช่นนั้นจะให้ข้าชนะโดยไม่ต้องประลองก็ได้นะ”
มัมบะเลยว่างั้นก็ได้ จะไปขออนุญาตจากนายท่านให้ก็แล้วกัน
แล้วเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก

ทีนี้ทุกคนก็เลยชวนกันดื่มต่อ โจกิก็ยังปฏิเสธบอกว่า “ข้าไม่ดื่มเหล้า” เหมือนเดิม
ทุกคนก็เลยแบบ ไม่ใช่ไม่ดื่ม แต่ดื่มไม่เป็น ใช่ไหมล่ะ เรื่องนั้นไม่เห็นจะเป็นไรเลย
จิโร่ก็ว่า ส่วนที่ไม่ซื่อตรงแบบนั้นของนายก็น่ารักดีนะ ❤
ทาโร่ก็เล่าเรื่องของตัวเอง แล้วบอกว่าโจกิก็เป็นเพื่อนพ้องคนนึงเหมือนกัน

โจกิได้ฟังก็นิ่งไป จนโฮเนะเอ่ยขึ้น “ยามัมบะกิริ โจกิ…นายกับยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ
เคยอยู่กับเจ้านายคนเดียวกันคือ นางาโอะ อาคินากะ สินะ”
โจกิ “แล้วมันยังไงรึ”
โฮเนะ “ยามัมบะกิริเป็นดาบที่นางาโอะ อาคินากะสั่งให้ช่างตีดาบตีขึ้นโดยเลียนแบบนาย
ทำไมนางาโอะ อาคินากะถึงได้สั่งให้ทำดาบเลียนแบบนายขึ้นมากันนะ…”

โจกิ “เจ้านายคนก่อนคงเป็นพวกแปลกประหลาดล่ะมั้ง”
โฮเนะ “นายน่ะ เป็นดาบที่นางาโอะ อาคินากะได้รับมาจากโฮโจ อุจิมาสะ
ไม่ใช่ว่านางาโอะ อาคินากะต้องการดาบใหม่ ที่มีไว้สำหรับตัวเองหรอกเหรอ?
…ต้องการดาบที่งดงามเหมือนกับนายน่ะ”

โจกิ “ดาบที่งดงามงั้นรึ”
โฮเนะ “นายคือต้นแบบของยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ ดังนั้นยามัมบะกิริ คุนิฮิโระที่งดงามขนาดนั้น
มันก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่านายที่เป็นต้นแบบนั้นเป็นดาบที่แสนยอดเยี่ยม ดังนั้น…..
การพูดจาไม่ดีใส่ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระแบบนั้น มันเป็นการดูถูกตัวตนของนายเองไม่ใช่เหรอ”
โจกิ “….คิดจะเทศนาข้ารึ?”
โฮเนะ “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่คิดว่าทั้งยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ ทั้งยามัมบะกิริ โจกิ
ทั้งสองต่างก็เป็นดาบที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่นั่นล่ะนะ 🙂”
ไดฮันเนียพอเห็นโฮเนะยิ้มก็หันไปบอกโจกิว่า
“รอยยิ้มของโฮเนะบามิน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้บ่อยๆหรอกนะ”
โจกิเงียบไปอึดใจ “….ไม่ใช่ว่าดื่มมากไปหรอกเรอะ”
โฮเนะ “อาจเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้าไม่ยืมฤทธิ์ของเหล้า ฉันก็พูดเรื่องแบบนี้ไม่ได้น่ะสิ”

พอมัมบะไปขออนุญาตจากนายท่านมาได้แล้ว
ทุกคนก็เริ่มจัดแจงทัพกันตามความสมัครใจ โดยจัดได้ 2 ทัพ ดังนี้
ทัพมัมบะ – ยามาบุชิ อุกุย โซฮายะ มุตสึ โดดานุกิ
ทัพโจกิ – ฮาเซเบะ ทาโร่ จิโร่ โอเดนตะ ไดฮันเนีย
โอคาเนะที่เป่ายิ้งฉุบแพ้เลยอดเข้าทัพก็โวยวายว่าทำไมกันนนน ข้าก็อยากต่อสู้ด้วยนะ!!!
สึรุที่ยังไม่ได้อยู่ทัพไหนก็เลยเสนอว่าจะจัดทัพที่ 3 ขึ้นมาสู้ด้วย โดยมีสมาชิกคือ
นันเซ็น โอคาเนะฮิระ มาเอดะ โกะโคไท ฮากาตะ
ส่วนโฮเนะบามิขอตัวไม่เข้าร่วมด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้น้องๆได้มีโอกาสฝึกฝนฝีมือ
(ฮรื่อออออ ลูกแม่คนดี แต่บทน้อยเหลือเกิลลลลล //ปาดน้ำตา)

แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น
ถ้าจำไม่ผิด…
โซฮายะ vs โอเดนตะ vs สึรุมารุ
ฮาเซเบะ vs ยามาบุชิ
อุกุย vs โอคาเนะฮิระ
จิโร่ ทาโร่ vs มุตสึ โดดานุกิ
ไดฮันเนีย vs นันเซ็น ฮากาตะ มาเอดะ โกะโคไท

จนกระทั่งมัมบะมาเจอกับโจกิในที่สุด…

มัมบะ “แย่หน่อยนะ ที่คู่ต่อสู้นายเป็นฉัน”
โจกิ “…ฮงมารุแห่งนี้เป็นฮงมารุที่ยอดเยี่ยม”
มัมบะ “อะไรนะ…”
โจกิ “พอได้พูดคุยกับดาบทุกเล่มที่อยู่ที่นี่ ข้าก็คิดเช่นนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ
ทุกคนล้วนเป็นเหล่าดาบที่มีจิตใจแข็งแกร่ง แต่ไม่ว่ายังไง…
ข้าก็ไม่อาจคิดได้ว่าเจ้าเป็นคนหล่อเลี้ยงฮงมารุแห่งนี้ให้เป็นเช่นนี้ได้เลย
คนที่สร้างฮงมารุแห่งนี้ขึ้นมาได้จนถึงจุดนี้ไม่ใช่เจ้า
ดังนั้น…ข้าจึงไม่มีทางที่จะยอมรับเจ้าได้!!!!”

แล้วโจกิก็เริ่มเปิดฉากโจมตีใส่มัมบะก่อน ตอนแรกมัมบะหลบแล้วตอบโต้คืน
โดยที่ยังไม่ได้ชักดาบออกจากฝักเลยด้วยซ้ำ
โจกิก็บอกให้เข้ามาเลย มัมบะเลยชักดาบออกมา แล้วทั้งคู่ก็ต่อสู้กัน

มัมบะมีฝีมือเหนือกว่าโจกิมากกกกกก รับมือกับโจกิได้สบายๆเลย
(แหงล่ะ…โจกิเลเวล 1 จะไปสู้กับมัมบะเลเวล 99 ได้ไง 55555)
ในขณะที่โจกิกำลังเพลี้ยงพล้ำเข้าตาจนนั้นเอง
ลูกทัพของโจกิก็เข้ามาเสริมทัพพอดี กลายเป็นการต่อสู้แบบ 6 ต่อ 1
แล้วทุกคนก็เข้าโจมตีใส่มัมบะ แต่เหมือนยังไงก็ยังสู้มัมบะไม่ได้
มีแค่ฮาเซเบะที่พอจะสูสีกับมัมบะ (อาจเพราะฮาเซเบะคิวาเมะแล้วด้วยแหล่ะ)
ตอนนั้นทุกคนก็ประหลาดใจกันว่าทำไมมัมบะถึงได้แข็งแกร่งนัก

荒牧慶彦「『刀ステ』の新たな挑戦」、舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむが開幕!刀剣男士  十九振りが登場の開幕会見コメントUP!※ゲネ画像12点追加!! | スマートボーイズ

สักพัก ทัพของมัมบะก็เข้ามา พี่เห็ดบอกว่าเดี๋ยจะช่วยกันสู้ แต่มัมบะบอกว่าไม่ต้อง
ก่อนจะชี้ดาบไปที่โจกิ “พวกเราเป็นดาบ เพราะงั้นมาพูดคุยกันด้วยคมดาบเถอะ”

แล้วการต่อสู้แบบตัวต่อตัวระหว่างยามัมบะกิริทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น
แต่โจกิสู้มัมบะไม่ได้เลย ไม่ว่าจะลุกขึ้นมาสู้กี่ครั้งก็แพ้มัมบะตลอด
เจ้าตัวก็ไม่ตัดใจยอมแพ้ เอาแต่พูดว่าตัวเองคือยามัมบะกิริ โจกิ ตัวเองเป็นของต้นแบบ

โจกิ “คิดว่าจะจบแค่นี้เรอะ!!”

แล้วก็พุ่งเข้าหามัมบะอีก แต่ก็สู้ไม่ไหวอยู่ดี โจกิโดนมัมบะซัดจนล้มลงไป
สุดท้ายมัมบะจะใช้สันดาบโจมตีใส่โจกิเพื่อจบการประลอง แต่นันเซ็นถลาตัวเข้ามาห้าม
โจกิ “เนโกะโคโรชิ….”
นันเซ็น “อา ใช่แล้ว ฉันคือเนโกะโคโรชิ แต่ฉันก็พยายามที่จะไม่แพ้คำสาปอยู่นี่ไง
ดังนั้น…นายที่ฟันปีศาจเองก็อย่าให้หัวใจตัวเองกลายเป็นปีศาจไปเซ่!!!”
โจกิอึ้งไป มัมบะลดดาบลงถามคนตรงหน้าว่า “นายจะทำไงต่อล่ะ”
โจกิกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ พอมองซ้ายมองขวาก็เห็นสายตาที่แต่ละคนมองมาที่ตน
ความรู้สึกต่างๆ ทั้งเจ็บใจ ทั้งโกรธ ทั้งละอาย ทั้งสมเพชตัวเองก็ถาโถมเข้ามา
จึงทุบพื้นอย่างแรง พร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่น “โธ่เว้ย!! โธ่เว้ย!!!! โธ่เว้ย!!!!”
ก่อนจะพูดออกมาอย่างเจ็บใจ “ข้า…แพ้แล้ว…”

แล้วโจกิก็เดินออกไป จิโร่จะเดินตามไปดูแต่ฮาเซเบะขัดไว้
ฮาเซเบะ “ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ”
จิโร่ “จะทำแบบนั้นได้ไงล่ะ!”
ไดฮันเนีย “ไม่ต้องห่วงหรอก วันที่หมอนั่นจะยิ้มได้คงมาถึงในสักวันหนึ่งแน่นอน”
จิโร่ “นายก็รีบๆตามไปด้วยกันเถอะน่า”

จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป เหลือมัมบะกับมุตสึตามลำพัง

มุตสึเห็นมัมบะไม่หือไม่อือ เลยถามว่าชนะทั้งที แต่ทำไมทำหน้าหดหู่แท้
มัมบะทำหน้าเศร้า ก้มมองดาบในมือ ตอบมุตสึด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ชนะแล้วยังไงหรือ ความแข็งแกร่งนี้มันจะมีความหมายอะไร?”

มุตสึก็หัวเราะดังลั่น บอกว่า “ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระเนี่ย เป็นดาบที่ยอดไปเลยนะ
นายน่ะแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังคงมองหาความแข็งแกร่งอยู่อีก
นั่นน่ะคงเป็นเรื่องราวของนายสินะ แต่ก็เหมือนกับที่นายมีเรื่องราวของนาย
พวกเราเองก็มีเรื่องราวของพวกเราเช่นกัน พูดไปแล้วก็นึกถึงช่วงสร้างฮงมารุใหม่ๆเลย
ถึงฉันจะไม่ได้ออกรบมากมายเท่ากับนาย แต่ก็ผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย
พวกเราต่อสู้เพื่อปกป้องประวัติศาตร์ และต่อสู้เพื่อปกป้องฮงมารุด้วยเช่นกัน
แล้วประวัติศาตร์ของฮงมารุแห่งนี้ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่านายน่ะไม่ใช่ของปลอม
เพราะถ้าเป็นของปลอมล่ะก็ คงไม่งดงามเช่นนี้หรอกนะ

มัมบะได้ฟังก็อึ้งไป ก่อนสีหน้าจะเริ่มมีรอยยิ้ม
“โยชิยูกิ…อย่ามาบอกว่าข้างดงามอะไรนั่นนะ”

ตัดมาที่อุกุยสุมารุที่ตามไปเจอโจกิกำลังทำหน้าผิดหวังซึมอยู่คนเดียว เลยเข้ามาหยอก
พอเห็นโจกิไม่เล่นด้วย ก็พูดปลอบว่า “แผนการต่อสู้ของเจ้าน่าประทับใจมากเลยล่ะ
ถ้ายามาบุชิ คุนิฮิโระโผล่มาขัดจังหวะช้ากว่านี้อีกนิด ฝ่ายเจ้าอาจชนะก็ได้นะ”
โจกิก็ตอกกลับไปว่า “ข้าน่ะดูถูกเหยียดหยามดาบเลขาของพวกเจ้าอย่างแรงเลยนะ
จะมาเห็นอกเห็นใจข้าไปเพื่ออะไร!!?”

อุกุยยิ้ม “เพราะเจ้าเป็นเพื่อนพ้องของฮงมารุแห่งนี้แล้วยังไงล่ะ”
คำตอบของอุกุยทำให้โจกิอึ้งไป “เพื่อนพ้องรึ?… ข้าน่ะถูกรัฐบาลส่งมานะ
อาจจะถูกส่งมาที่นี่เพื่อคอยจับตาสอดส่องพวกเจ้าก็ได้
เพราะงั้น…อย่ามาพูดคำว่าเพื่อนพ้องออกมาง่ายๆแบบนั้น!!”
อุกุย “อย่าบอกนะว่า…เจ้างอนเพราะแพ้น่ะ?”
โจกิ “ไม่ได้งอนอะไรทั้งนั้น!!!”
อุกุย “งั้นข้าจะบอกให้ ว่าทำไมเจ้าถึงแพ้ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ”
โจกิ “อะไรนะ…”
อุกุย “มิคาสึกิ มุเนะจิกะ”

โจกิบอกว่ารู้จัก หมอนั่นเป็นดาบที่เคยอยู่ที่ฮงมารุแห่งนี้ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว
ที่ฮงมารุแห่งนี้คงเกิดเรื่องอะไรขึ้นสินะ แล้วมิคาสึกิมาเกี่ยวไรกับที่เขาแพ้ล่ะ?

อุกุย “ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระน่ะ เสียใจมาตลอดที่ตนเองไม่สามารถหยุดมิคาสึกิเอาไว้ได้
ดังนั้น…เขาจึงตั้งใจจะแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งเพื่อที่จะไม่ต้องสูญเสียคนสำคัญไปอีก”
โจกิ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าแพ้รึ”
อุกุย “ใช่…แต่หมอนั่นน่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ชอบแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว
ถ้าหมอนั่นพึ่งพาพวกเราบ้างสักนิดก็คงดี…
พูดจบอุกุยก็ขอตัวไปดื่มชา อีกทั้งยังบอกว่าถ้าโจกิอารมณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่
ก็ตามเขาไปดื่มชาได้ พวกเขายินดีต้อนรับเสมอ

พออุกุยเดินออกไป โจกิก็ได้แต่ยืนมองคนอื่นๆในฮงมารุเงียบๆคนเดียว

ตัดภาพมาอีกด้านหนึ่งของฮงมารุ…
ฮาเซเบะเดินตามมาเจอมัมบะที่กำลังยืนเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่เงียบๆคนเดียว
พอเห็นสีหน้ากังวลของมัมบะ ก็เอ่ยปากถามอีกฝ่ายไปว่ากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
นายน่าจะรู้เรื่องที่ตัวเองสมควรทำแล้วไม่ใช่เหรอ?

มัมบะ “ฉันน่ะ…อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวเองไม่ใช่ของเลียนแบบ… ถ้าแข็งแกร่งกว่านี้…
ก็คงไม่ต้องสูญเสียมิคาสึกิไป… ดังนั้นฉันจึงต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้…. แต่……”
ฮาเซเบะ “แต่ไม่อาจละทิ้งฮงมารุแห่งนี้ไปได้…สินะ”
มัมบะ “ฉันคือดาบเลขา มีหน้าที่ปกป้องนายท่าน และรวมฮงมารุแห่งนี้ให้เป็นหนึ่ง
หากฉันละทิ้งฮงมารุแห่งนี้ไป แล้วเกิดอะไรขึ้นกับนายท่าน กับฮงมารุล่ะ…..”

แล้วฮาเซเบะก็พูดขึ้นมาว่า “แม้แต่ตอนนี้ความเศร้าก็ยังคงอยู่ในหัวใจ….
ไม่ใช่แค่นายคนเดียว ทุกคนในฮงมารุแห่งนี้ยังมีความเศร้าที่สูญเสียมิคาสึกิอยู่ตลอดมา
แต่พวกเราก็ไม่อาจก้มหน้าไปตลอดได้ แม้จะเศร้า…แต่ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป
ในขณะที่เก็บงำความเศร้าที่ไม่เคยลบเลือนไว้ในอก พวกเราก็ยังคงต้องทำงาน กินข้าว ดื่มชา
แช่น้ำชำระเหงื่อไคล คอยเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และหัวเราะกับเรื่องบ้าๆ
ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อปกป้องประวัติศาสตร์นี้ แต่ละวันแต่ละคืนจะค่อยๆผันผ่านไป…
ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ…นายน่ะแข็งแกร่ง แต่ทุกคนในฮงมารุแห่งนี้ก็แข็งแกร่งเช่นกัน!!
เพราะฉะนั้น…เรื่องฮงมารุน่ะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ!”

แล้วทุกคนก็เดินเข้ามาให้กำลังใจมัมบะ ประมาณว่า ก็อย่างที่ฮาเซเบะบอกนั่นแหล่ะ
ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอกนะ ไปออกเดินทางฝึกตนเถอะ

แต่มัมบะยังคงลังเลอยู่ จนโจกิเดินเข้ามา “ไง ของปลอมคุง”
โดดานุกิก็ยั๊วะว่ายังจะมาเรียกมัมบะแบบนั้นอีกนะเอ็ง แต่ถูกนันเซ็นห้ามไว้ก่อน  
โจกิ “ชนะของต้นแบบอย่างข้ารู้สึกยังไงบ้างล่ะ”
มัมบะ “ไม่หรอก คนที่ชนะคือนายต่างหาก”
โจกิ “ว่าไงนะ…”
มัมบะ “ฉันแค่ใช้กำลังทำให้นายยอมจำนนเท่านั้น นั่นไม่เรียกว่าชัยชนะหรอก”
โจกิ “….”
มัมบะ “อีกอย่าง…นายจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ ต่อให้เรียกว่าของปลอม แต่ฉันก็คือฉัน”

舞台『刀剣乱舞』慈伝 日日の葉よ散るらむ、大千秋楽公演がテレビ初放送 | SPICE - エンタメ特化型情報メディア スパイス

โจกิได้ฟังแบบนั้นก็ไม่สบอารมณ์ เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อ แล้วตะโกนใส่มัมบะเลยว่า
“เป็นของปลอมแท้ๆ เจ้านี่มันยังไงกันแน่!! คนที่แพ้คือข้าต่างหาก!!
แต่ข้าน่ะ…ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น จะแข็งแกร่งขึ้นที่ฮงมารุแห่งนี้!!”

ไดฮันเนียได้ฟังก็ยิ้ม บอกโจกิว่า จะว่าไปยังไม่ได้พูดเลยนี่นา ขอต้อนรับสู่ฮงมารุนะ😃
จิโร่ “ไว้พวกเรามาจัดงานเลี้ยงต้อนรับกันใหม่นะ♡”

พอสถานการณ์คลี่คลาย โกะโคไทก็เดินเข้ามา บอกว่ายังหาของไม่เจอเลย
พอดีกับที่มีฝูงอีกาบินผ่าน โซฮายะเลยให้โอเดนตะช่วยไล่ฝูงกาไปให้หน่อย
ตอนโอเดนตะจะฟาดดาบ ทุกคนกระโดดดึ๋งๆ ทำท่าเหมือนพื้นมันสั่นด้วย 55555
ที่ตลกอีกอย่างคือพอโอเดนตะฟาดดาบลง นันเซ็นวิ่งหนีจ้าหลบไปหลังฉากเลย
ส่วนโกะโคไทจะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะมาเอดะจับตัวไว้อยู่ 555555

นั่นแหล่ะ…พอไล่ฝูงอีกาไปได้ ก็มีถุงๆนึงหล่นลงมา เป็นของที่โกะโคไทตามหาอยู่นั่นเอง
น้องแกะปากถุงไม่ออก พี่เห็ดเลยอาสาช่วยแกะ สรุปว่าถุงแหกจ้า ของข้างในหล่นลงพื้นหมด
ก่อนที่ทุกคนจะพบว่าของที่อยู่ข้างในถุงก็คือ…

“ลูกโอ๊ค🌰”

ทุกคนต่างพากันมองมาที่ลูกโอ๊คที่หล่นออกจากถุงนั้น
โกะโคไทเลยบอกว่า “ก่อนเกิดเรื่องนั้น…มิคาสึกิซังได้มอบให้ผมเอาไว้ครับ”
โซฮายะถามย้ำ “มิคาสึกิน่ะเหรอ?” โกะโคไทพยักหน้าแล้วอธิบายต่อ
“มิคาสึกิซังบอกว่าถ้ามีใครจะออกเดินทางห่างจากฮงมารุแห่งนี้ไป
ให้มอบลูกโอ๊คนี้ให้กับเขา ลูกโอ๊คนี้เปรียบเสมือนเป็นเครื่องราง
เพื่ออวยพรให้พวกเขากลับมาฮงมารุได้อย่างปลอดภัย…”

แล้วฮาเซเบะก็เสริมขึ้นว่าตอนที่เขากับฟุโดออกเดินทาง ก็ได้ลูกโอ๊คจากมิคาสึกิมาเหมือนกัน

รูปภาพ© digitarou

สึรุมองลูกโอ๊คในมือแล้วพูดขึ้น “ไม่ใช่ไม่มีหัวใจ แต่หัวใจ…อยู่ในนี้สินะ”
โกะโคไท “มิคาสึกิซังเองก็มีลูกโอ๊คนี้เก็บไว้กับตัวครับ เขาเก็บมันไว้ในแขนเสื้ออย่างดีเลย
ดังนั้นผมเชื่อว่ามิคาสึกิซังจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เพราะลูกโอ๊คนี้เป็นเครื่องรางนี่นา”

คำพูดของโกะโคไทเหมือนได้ทำลายความลังเลสับสนของมัมบะไปจนหมดสิ้น
มัมบะตัดสินใจเดินเข้าไปหาโกะโคไทแล้วพูดว่า “มิคาสึกิบอกว่าให้มอบลูกโอ๊คพวกนี้…
ให้กับดาบที่จะออกเดินทางห่างจากฮงมารุแห่งนี้ไปสินะ เช่นนั้น…ขอลูกโอ๊คให้ฉันลูกนึงได้ไหม”
โกะโคไทยื่นลูกโอ๊คให้มัมบะ มัมบะรับมาแล้วมองลูกโอ๊คในมือ น้ำตาไหล


“หัวใจ…อยู่ในนี้สินะ… เจ้าปู่บ้า…ขนาดไม่อยู่แล้ว…ยังจะทำเรื่องบ้าๆอีก”

แล้วมัมบะก็หันไปบอกทุกคนว่ามีเรื่องจะขอร้องหน่อย
“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ขอฝากนายท่าน ฝากฮงมารุแห่งนี้ด้วย”
ทุกคนก็ยิ้มตอบกลับมัมบะไปว่าได้เล้ย ไม่ต้องห่วง
สุดท้ายมัมบะก็หันไปพูดกับโจกิ ว่า “ฉันจะขอร้องนายด้วยได้ไหม?”
โจกิก็ว่า “ได้สิ ถ้าจะออกเดินทางฝึกตนล่ะก็
จงไปตามเส้นทางของเจ้าเถอะ…ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ!!”
(ยอมเรียกชื่อเต็มแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดด 😭😭😭)

แล้วมัมบะก็ออกเดินทางเพื่อฝึกตน…
แต่ก่อนที่จะออกจากฮงมารุไป มีเสียงปู่ดังขึ้นมาว่า –ข้าจะตั้งตารอนะ–
มัมบะ “ไปล่ะนะ…” แล้วยิ้ม….

ตัดภาพกลับมาที่ฮงมารุ…
ทุกคนก็ยังใช้ชีวิตกันตามปกติ ทำเวรไร่ เลี้ยงม้า เทะอาวาเสะ ไปสำรวจ ไปออกรบ
โจกิก็ดูสนิทกับทุกคนดี โดดานุกินี่เดินเข้ามาเกาะคอเลย เหมือนไม่เคยเกลียดกันมาก่อน 🤣

ฉากสุดท้ายเป็นอุกุยที่ยืนคุยกับมุตสึ ทั้งสองมองใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นเพราะสายลม
มุตสึบอกว่า มองภาพใบไม้ร่วงหล่นแบบนี้แล้วมันเหงาๆเนอะ อุกุยก็พูดประมาณว่า
“ใบไม้ที่ร่วงหล่นไม่อาจย้อนคืนกลับไปที่กิ่งได้อีกเป็นครั้งที่สอง
เหมือนกับวันแต่ละวันที่พวกเราได้ใช้ชีวิตไปเลยเนอะ
วันพรุ่งไร้ซึ่งดวงจันทรา ใบไม้แห่งคืนวันยังโรยราปลิดปลิว”
(明日に月はなく 日日の葉よ散るらむ)

(ตรงนี้คิดว่าอุกุยน่าจะเล่นคำ….
คำว่า “พรุ่งนี้” ในภาษาญี่ปุ่นเขียนได้ว่า 明日 (อะสึ)
ส่วน “พระจันทร์” ในภาษาญี่ปุ่นเขียนได้ว่า 月 (สึกิ)
“วันพรุ่งที่ไร้ซึ่งจันทรา(明日に月はなく)”
ก็จะหมายถึง 明日(พรุ่งนี้) ที่ไม่มีตัวคันจิ 月(พระจันทร์)
ดังนั้น เมื่อถอด 月 ออกจาก 明日 จะเหลือแค่ 日日 (ฮิบิ) ที่แปลว่า แต่ละวัน, คืนวัน
อุกุยจึงอาจหมายความว่า แม้มิคาสึกิ(月)จะไม่อยู่แล้ว  แต่แต่ละวัน(日日 )ก็ยังคงอยู่

หรือก็คือ แม้มิคาสึกิจะไม่อยู่ แต่พวกเขาก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตต่อไป
ไปออกรบ ออกสำรวจ ทำงาน ปลูกผัก เลี้ยงม้า ฝึกฝนตัวเอง…
และเวลาที่ได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้น ก็เหมือนกับใบไม้ที่ร่วงหล่นลงจากต้น
มันไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว อยู่ที่ว่าจากนี้จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง…)

มุตสึได้ฟังอุกุยพูดก็หัวเราะ บอกว่าฉันไม่เข้าใจอะไรยากๆแบบนั้นหรอก 55

ตอนสุดท้ายเหลือแค่มุตสึโนะคามิที่อยู่คุยกับอารุจิ…
เหมือนว่ามัมบะส่งจดหมายมา คงสบายดีสินะ
หมอนั่นคงไปเจอเรื่องราวต่างๆแล้วแข็งแกร่งขึ้นแน่ๆ
ทุกคนในฮงมารุแห่งนี้ก็มีเรื่องราวด้วย แน่นอนว่าข้าก็เช่นกัน
บลาๆๆๆๆ (จำไม่ได้ 5555) เพราะงั้น…วางใจได้เล้ย!!!!! !

แล้วก็ขึ้นเพลง ED ทุกคนถือร่มเป็นสีขาวล้วน
ที่ร่มไม่มีเขียนชื่อหนุ่มดาบแต่ละคนเหมือนเสตจที่ผ่านๆมา
แต่ใช้การฉายโปรเจกเตอร์เอาล่ะ 😆
แนวเพลงก็ดูสดใส เรียกได้ว่า จบแบบอิ่มเอมใจสุดๆ 😭

ーーーーーーーーーーーーーーーーーจบーーーーーーーーーーーーーーーーー

คราวนี้มาหวีดแต่ละตัวละครบ้าง❤

CCI17019_0009ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระ รับบทโดย อารามากิ โยชิฮิโกะ (มักกี้)
มักกี้สวยมากกกกกกก เสตจก่อนๆเป็นมัมบะที่ดียังไง เสตจนี้ก็ยังดีเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าเสตจนี้ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระมีความสุขุมมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น น่าจะเพราะสถานการณ์ที่ผ่านๆมาบังคับให้เจ้าตัวต้องหนักแน่น และแข็งแกร่งขึ้นล่ะมั้ง แถมที่น่าชื่นใจสุดๆเลยก็คือ เสตจนี้ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระดูเป็นที่รักใครของทุกคนในฮงมารุมากๆเลย คือเหมือนที่ผ่านมาเจ้าตัวจะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง คิดแต่ว่าตัวเองไม่เหมาะสมบ้างล่ะ คนอื่นไม่ยอมรับบ้างล่ะ เป็นคนอื่นจะดีกว่าบ้างล่ะ แต่เสตจนี้มันแสดงให้เห็นกันชัดๆแล้วว่า มัมบะเป็นที่รัก และเป็นที่ยอมรับของทุกคนมากจริงๆ!! ไม่เชื่อก็ดูฮาเซเบะเป็นตัวอย่าง ทำทุกทางจนเป็นบ้าไปแล้วนั่น 5555 ซีนที่มองลูกโอ๊คแล้วนึกถึงปู่ มักกี้ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากเลย เรารู้สึกได้ว่ามัมบะเจ็บปวดจริงๆอ่ะ เห็นมัมบะน้ำตาคลอแล้วใจแม่ยกจะสลายตาม T_T ฮื่อออออ เสตจนี้มัมบะตัดสินใจออกเดินทางไปคิวาเมะแล้ว…ยังไงก็ขอให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ตั้งใจ แล้วกลับมาฮงมารุอย่างปลอดภัยนะ (>U<)♥

CCI17019_0010เฮชิคิริ ฮาเซเบะ รับบทโดย วาดะ มาซานาริ (มาชี่)
นี่ไม่ใช่ วาดะ มาซานาริ แสดงเป็น เฮชิคิริ ฮาเซเบะ แต่เป็น เฮชิคิริ ฮาเซเบะ แสดงเป็น วาดะ มาซานาริ!!!! 555555 คือเหมือนได้ดูมาชี่แสดงเป็นตัวเองยังไงไม่รู้ 5555 ความโวยวายแม้จะสู้โอคาเนะฮิระไม่ได้ แต่ความฮาจัดเต็ม เป็นตัวปล่อยมุก และตบมุกได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเอาถ้วยMVPตัวฮาดีเด่นประจำเสตจไปเลย 👏👏 พี่แกเล่นฮาซะจนแบบ…อะไรของนายเนี้ย!! 5555 แต่ที่น่าเอ็นดูกว่าทุกๆเสตจคือ ความเป็นห่วงของเฮชิคิริ ฮาเซเบะที่มีต่อยามัมบะกิริ คุนิฮิโระนี่ล่ะนะ เมื่อก่อนเจ้าตัวมักจะชอบฟึดฟัดไม่พอใจที่ตัวเองไม่ได้เป็นดาบเลขา แต่เสตจนี้ดูเหมือนเฮชิคิริ ฮาเซเบะจะยอมรับยามัมบะกิริ คุนิฮิโระมากขึ้น ถึงกับยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องความรู้สึกของมัมบะเลยเชียวนะ (แต่บางทีเราก็ว่ามันมากไปหน่อย 55555555555)

ยามัมบะกิริ โจกิ รับบทโดย มิซึกิ อุเมะสึCCI17019_0009
ขอพูดถึงนักแสดงก่อน…คือหล่อมากกกกกกกกกกกกกกก กรี๊ดกร๊าดดดดด //ปาหัวใจใส่รัวๆ♥♥♥♥♥// เป็นโจกิที่ดีอ่ะ ดีมากกกกกกกกกกกก ทั้งน้ำเสียง ทั้งท่าทางคือโจกิแบบที่เราคิดเลย แล้วก็ทำให้เราหมั่นไส้ได้จริงๆ 55555 ส่วนเรื่องคาแรคเตอร์นั้น….ในเกมโจกิปากร้ายยังไง ในบุไตคูณเข้าไปค่ะ ปากร้ายกว่าสิบเท่าร้อยเท่า!! ปากร้ายเหลือเกินพ่อคุณเอ้ย (-__-”) ใครเป็นแม่ยกยามัมบะกิริ คุนิฮิโระอาจจะอยากพุ่งไปตบ 5555 แต่….เชื่อเถอะว่าทำไม่ลง เพราะคาแรคเตอร์ในเสตจแม้จะปากร้าย แต่มีความน่าเอ็นดูมากเช่นกัน 😂 คือต่อให้เจ้าตัวมาดเข้มเก๊กขรึมแค่ไหน แต่พอมาเจอกับฮงมารุหรรษาฮาไม่เต็มบาทอย่างฮงมารุแห่งนี้ก็หลุดได้ 555555 เห็นแล้วก็เอ็นดูเหมือนกันนะ เหมือนทุกคนพากันแกล้ง 😂 หวังว่านายจะสนิทกับคนในฮงมารุได้เร็วๆนะ! ทั้งนี้ต้องขอบคุณสุเอะซัง(คนเขียนบท)ที่สร้างคาแรคเตอร์ของโจกิออกมาแบบนี้ด้วยล่ะ เราเชื่อว่าโจกิของบุไตน่าจะไปตรงไทป์ของใครหลายๆคนแน่นอน เกาะมือเมนเอาไว้ให้แน่นๆล่ะ เตือนแล้วนะ //ส่วนเรา…อยู่ก้นหลุมเรียบร้อย 555 โฮเนะะะะะ หย่อนเชือกลงมาให้แม่ด้วยยยยย~~~~~~

5สึรุมารุ คุนินากะ รับบทโดย เคนโตะ (นุ้งเค้นท์)
สึรุของนุ้งเค้นท์เสตจนี้….น่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ♥♥♥ เป็นสึรุที่อัพเลเวลความสึรุขึ้นสิบเท่า ดีมากกกกกกกกกก ♥♥♥ ตอนฉากเปิดตัวที่โผล่มาจากพื้นบ้านนี่สมกับเป็นสึรุมารุมากๆ ทุกคนตกใจสตงสติเตลิดกันหมด //โดยเฉพาะท่าทางของฮาเซเบะที่กอดอกยกขาด้วยความตกใจนี่เห็นทีไรก็เอ็นดูปนขำ 5555// แถมยังเป็นพี่ชายที่แสนใจดียยยย์ อาสาตามหาของให้โกะโคไท คอยเล่นกับเด็กๆบ้านอาวาตะให้ด้วย 55555 ส่วนซีนที่แกล้งตีเนียนเป็นมัมบะนี่ก็…โคตรฮา ฮาจนกรามแทบค้าง ฮื่อออออออ 😂😂 ซีนต่อสู้นุ้งเค้นท์ก็ยังทำออกมาได้งดงามสมกับเป็นกระเรียน เสื้อผ้าสีขาวที่สะบัดไปมาเห็นแล้วรู้สึกเลยว่า นี่ล่ะสึรุมารุล่ะ >_<

ยามาบุชิ คุนิฮิโระ รับบทโดย โยโกยาม่า มาซาฟุมิ11
พี่เห็ดยังคงยึดคอนเซ็ปรักน้องเหมือนเดิม 👍 เสตจนี้รับหน้าที่คอยตบมุกให้ฮาเซเบะ เป็นคู่หูคู่ฮาประจำฮงมารุไป 55555 แและที่สำคัญคือ พี่ยังคงเป็นพี่เห็ดที่ดีมากๆ โดยเฉพาะเสียงหัวเราะ “คั่ก คั่ก คั่ก ค่า” ของพี่นี่แบบ..ฟังทีไรก็ยังหลอนในหู ฟังบ่อยๆก็คงจะหลอนพอให้เก็บเอาไปฝันได้เลย พี่จะหัวเราะเหมือนไปแล้วนะ!!!! 😂

12โดดานุกิ มาซาคุนิ รับบทโดย ทาเคชิ นาโอกิ
ยังยืนยันนอนยันตีลังกายันว่านาโอกิเป็นโดดานุกิที่หล่อมากกกกกกกก (เติมกอไก่หมดโลก) 😍 โดดานุกิเสตจนี้แม้จะยังมีความเลือดร้อน แต่ก็เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของมัมบะนั่นแหล่ะนะ (เสตจนี้รักมัมบะกันจริงๆ TUT) ตอนโดดานุกิทะเลาะกับโจกินี่แอบภาวนาในใจว่าให้ซัดหน้าไปสักหมัดสองหมัดดิ๊ 555555 //โท่ดๆ// ซีนที่โดดานุกิคุกเข้าลงต่อหน้าโจกินี่ไม่คาดฝันมากๆ ในความคิดเราโดดดานุกิค่อนข้างรักศักดิ์ศรีของตัวเองเลยนะ แต่ยอมทำแบบนั้นเพื่อมัมบะอ่ะ คือ…นายคงห่วงเพื่อนจริงๆสินะ T_T โดยส่วนตัวเราแอบชอบเวลาเห็นโดดานุกิกับโฮเนะคุยกันนะ ถ้าเสตจหน้ามีโฮเนะกับโดดานุกิอีกคงได้เห็นโฮเนะเรียกโดดานุกิว่า “ทานุกิ” อ่ะเนอะ 😂

2ไดฮันเนีย นากามิทสึ รับบทโดย คาวาคามิ โชตะ
เสตจนี้เหมือนคอยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้โจกิ 555 ทำให้ซีนอยู่กับโฮเนะบามิไม่ค่อยมี แม่ยกอย่างเราเลยเศร้าใจ ถถถถถ แต่ก็ยังเป็นไดฮันเนียที่ดี และที่สำคัญคือ ขายาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จะยาวไปไหน!  สูงชะลูดมาก 55555 ซีนที่ชวนให้กรี๊ดกร๊าดก็คงหนีไม่พ้นซีนที่พี่แกช่วยจัดทรงผมให้โจกิหลังจากที่โดนเอาผ้าขึ้นมาคลุมหัวตั้งหลายรอบล่ะมั้ง 55555 ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะจิ้นอะไรเลยนะ ให้ฟีลเป็นป๊ะป๋าที่คอยดูแลลูกชายมากกว่า 😂 แต่อยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกแพงอ่ะ ถ้ามีมิทจังมายืนด้วยอีกคนนะ อื้อหืออออออออ ออร่ารัศมีความแพง ความหล่อคงพุ่งเปล่งออกมาจนตาบอดแน่นอน 🤩 แต่ซีนต่อสู้ที่ไดฮันเนียเจอกับน้องๆบ้านอาวาตะนี่แอบตะโกนในใจ..อย่ารังแกเด็กๆนะะะะะะะ ชั้นจะไปฟ้องอิจินี่!!! แล้วก็สาปให้แพ้อยู่ในใจ 55555 ขอโทษค่ะ 🙏

14มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ รับบทโดย อาโอคิ จิน
ในเสตจน้องตีลังกาด้วย!!! คนดูพากันปรบมือใหญ่เลย 👏👏👏  สำเนียงน้องแม้ไม่โทสะจ๋าเท่ากับคนพากย์มุตสึต้นฉบับ แต่เราว่าน้องก็พูดออกมาได้ธรรมชาติดีนะ (>w<) น้องชอบไปโผล่ตรงหลังคา จนแอบคิดว่านี่คนหรือลิง? 55555 น้องเป็นมุตสึไทป์ที่ให้ความรู้สึกสดใส ไม่มีพิษมีภัย ดูมองโลกในแง่ดีมากๆ ส่วนตัวคิดว่ามุตสึของบุไตน่าจะเป็นดาบเล่มแรกๆที่มาที่ฮงของเสตจเลยมั้ง 🤔 อาจจะมาติดๆกับมัมบะเลย เพราะมัมบะเรียกมุตสึว่า “โยชิยูกิ” เฉยๆ แสดงว่าน่าจะสนิทกันระดับนึงแล้ว… แถมตอนสุดท้ายที่มุตสึเป็นดาบเล่มที่อยู่คุยกับอารุจินี่…เซอร์ไพรส์มาก 5555 ปกติจะเป็นดาบหลักๆอย่างปู่ มัมบะ ไม่ก็ฮาเซเบะใช่มะ? แต่เสตจนี้เป็นมุตสึ…เลยเดาเอาว่า เสตจหน้าระหว่างที่รอมัมบะไปคิวาเมะกลับมา บุไตอาจจะเล่นเรื่องของมุตสึก็ได้นะ ถ้าป็นจริงก็อาจจะมีเหล่าดาบโทสะทั้งหลายอย่างฮิเซ็น กับอาจารย์นันไคมาร่วมแจมในบุไตด้วยก็ได้…. //สั่ล//

นันเซ็น อิจิมอนจิ รับบทโดย ทานิมิสึ ริกิ (ริกกี้)13.่ยเ
ริกกี้เป็นนันเซ็น เป็นน้องเหมียวที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วยิ่งใครเป็นทาสแมวอยู่แล้วนะ โอ๊ยยยยยย จมความน่ารักกันตายไปข้าง!!!! ❤❤❤ ซีนที่ตะกุยกล่องนี่แบบ…โอ๊ยยยยยยย ตายกุตายยยยยยยยยยย อยากเอาของเล่นแมวไปล่อ แล้วลักพาน้องกลับบ้าน 5555 ยิ่งซีนที่น้องเมา ร้องเมี๊ยวๆ แล้วเอาหัวไปถูๆกับโจกินะ อหหหหหหหหหหห โคตรน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก ❤❤❤ ใครลงเรือลำนี้ไม่ต้องมีมันล๊ะกัปตัน เตะกัปตันลงทะเล แล้วโยนไม้พายทิ้งตามกัปตันไปได้เลย 5555555 สารภาพตามตรงว่าปกติไม่ค่อยอะไรกับนันเซ็นในเวอร์ชั่นเกม แต่นันเซ็นเวอร์ชั่นริกกี้นี่คือต้องยอมมมมม น่ารักมากจริงๆค่ะคุ๊ณณณณณณณณณณณณ (พูดคำว่าน่ารักไปกี่รอบแแล้วไม่รู้ แต่น่ารักอ่ะ น่ารักกกกกกกกกกก– แอ่ค โดนตบ)

4อุกุยสุมารุ รับบทโดย มาเอยาม่า ทาคาฮิสะ (มาเอะจัง)
คุณแม่ประจำเสตจ 5555 เสตจนี้ก็ยังคงเป็นคุมแม่ที่สุดแสนจะใจดี และวุ่นวายกับโอคาเนะฮิระเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าวุ่นวายจริงๆหรือเจ้าตัวจะรู้สึกชอบมากกว่า ….. น่าจะชอบแหล่ะ 555555 รู้สึกว่าอุกุยจะรู้จักโอคาเนะดีมาก รู้หมดว่าหมอนั่นจะวิ่งไปชนตู้ หมอนั่นจะเดินชนข้าวของพัง รหือกระทั่งนิสัยตอนเมาว่า โอคาเนะฮิระเมาแล้วจะเล่นใหญ่ขึ้น 5555 สมกับเป็นคู่หูโคบิเซ็น 🤣 แต่ซีนที่พูดถึงปู่นี่แบบ…จะร้อง T_T เราว่ามาเอะจังควบคุมโทนเสียงได้ดีมากเลย ตอนหยอกกับโจกิก็อีกเสียงนึง เป็นเสียงที่ดูขี้เล่นใจดี ตอนพูดถึงปู่ หรือมัมบะก็อีกเสียงนึง เป็นโทนเสียงที่ต่ำลงมาให้ฟีลอุกุยโหมดจริงจัง //กราบบบ// ขอบคุณที่ช่วยพูดให้โจกิได้สตินะคะ ไม่งั้นหมอนั่นคงยังจะคิดแค้นฝังหุ่นมัมบะไปอีกนาน 🙏

โอคาเนะฮิระ รับบทโดย คาโต้ โช (นุ้งโช)3
หนวกหูวววววววววววววววววววววววววววว 555555 เสร็จจากเสตจนี้นายควรไปตรวจลำคอ ตรวจเส้นเสียงอย่างด่วน เราเป็นห่วงเหลือเกิน  แต่เราชอบความเมาแล้วเล่นใหญ่ของนายนะ 555555 ส่วนตัวรู้สึกว่าเสตจนี้นุ้งโชอัพสกิลการแสดงได้ดีกว่าเสตจก่อนนะ พัฒนาการของน้องไม่เลวเลย สมกับที่เป็นเด็กของมาเอะจัง 👍👍 คือดูน้องเล่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น ดูบ้าบอ ดูโวยวายเป็นธรรมชาติมากขึ้น ฮาาาาาาา แต่เหมือนโอคาเนะฮิระเนี่ยมีบทให้มาโวยวายอย่างเดียวเลยอ่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกก //รักนายนะโอคาเนะฮิระ ไม่มีนายฮงมารุคงเงียบเหงา ฮ่าาาาา ❤

6โอเดนตะ มิทสึโยะ รับบทโดย อิโซโนะ ได
เป็นโอเดนตะที่ดั้งพุ่งมาก 5555555 ขนาดนั่งอยู่แถวหลังๆดั้งยังพุ่งกระแทกตา ตอนแรกนึกว่าเมคอัพซังเขาไลท์ดั้งหนักมือไปรึเปล่า แต่จ้องดูดีๆปรากฎว่าเป็นดั้งพี่แกจริงๆ 5555555 เป็นโอเดนตะที่หล่อโพดโพ หล่ออิ๊บอ๋ายวายป่วง หล่ออะไรจะขนาดนี้ยยยยยยยยย์ เป็นโอเดนตะที่ดียยยย์ และอย่างเหมือน เสียงเอย หุ่นเอย ความสูงเอย เป๊ะ!! ส่วนในเสตจก็พูดน้อยตามภาษาโอเดนตะ และตัวติดกับโซฮายะเคียวไดตลอดเวลา แอบนึกว่าจะโดนโอคาเนะฮิระมาโวยวายใส่ แต่ไม่มีแฮะ ส่วนไอ้ซีนที่กำลังตวัดดาบไล่ฝูงอีกา แล้วคนอื่นๆทำท่าโดดดึ๋งๆเสมือนพื้นมันสะเทือนนี่ไม่ไหวนะ 😂 พวกนายเป็นตลกคาเฟ่กันไปแล้วเรอะะะะ 555555 อย่าให้ชั้นรู้นะว่าใครเป็นคนคิด!!! 555555555

โซฮายะโนะสึรุกิ รับบทโดย อิยาม่า ยูตะ7
พ่อคนนี้ยุ่งอยู่กับการขนของย้ายฮงมารุทั้งเสตจ 555555 ยูตะก็ยังเป็นโซฮายะในแบบยูตะ แต่เสตจนี้พอมีโอเดนตะมาด้วยเลยดูแฮปปี้ขึ้นสินะ 😆 เป็นโซฮายะที่ดูแล้วสดใส มองโลกในแง่ดี ชอบประโยคที่เหมือนจะกลายเป็นคำพูดติดปากโซฮายะไปแล้ว ที่ว่า “เป็นของก๊อปปี้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่นา จะเริ่มจากการเป็นของก๊อปปี้ก็ไม่เห็นเป็นไร อยู่ที่ว่าจากนี้เราจะสร้างเรื่องราวของตัวเองยังไงมากกว่า” 👍 ชอบซีนที่โซฮายะกับโอเดนตะประลองกันมากๆเลย ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่สองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรแล้วรู้สึกแพงอ่ะ 🤩 ยิ่งตอนทั้งสองคนใส่ชุดรบด้วยนะ เฮ้ย!! ทำไมเท่จังเหล๋ย!!

CCI17019_0011จิโร่ทาจิ รับบทโดย โคซากะ เรียวทาโร่
ยอมรับว่าค่อนข้างห่วงเรียวทาโร่เรื่องจะมารับบทเป็นจิโร่ทาจิมากๆ เพราะเราเคยแต่ดูน้องในบทสึกิชิม่า เคย์ในไฮสุเตะ แล้วน้องก็รับบทสึกิชิม่ามานานมากๆ ทำให้เราติดภาพน้องเป็นสึกิชิม่าไปแล้ว เลยกลัวว่าเราจะสลัดภาพนั้นของน้องออกไปได้มั้ย (จริงๆก็รู้อยู่แล้วแหล่ะว่าน้องเก่ง) แต่พอได้ดูก็แบบ…เห้ย!!! น้องมันเก่งจริงๆว่ะ จริตจะก้านเป็นจิโร่ทาจิได้ดีเลย 👍👍 ทั้งเสียง การพูด ลีลา ท่าทาง เป็นอาเจ๊ได้ดีเยี่ยม ซีนที่รำพัดก็สวยมากกกกกกกกกกกกก  อาเจ๊เป็นคนมองโลกในแง่ดีนะ คอยแต่จะชวนโจกิไปก๊งเหล้าตลอด 555 อาจเพราะอยากให้โจกิสนิทกับคนในฮงมารุไวๆล่ะมั้ง เป็นห่วงอย่างเดียวคือเสื้อผ้าที่พร้อมจะแหวกขึ้นมาทุกเมื่อนี่ล่ะ 55555

ทาโร่ทาจิ รับบทโดย โคบายาชิ เรียว1
หล่อออออออออออออออออออออออ สูงงงงงงงงงงงงง ขายาวววววววววววววววววววว เป็นพี่ทาโร่ที่เพอร์เฟ็ค!!!!!!!!!!!!!!!!!!! //ชูป้ายให้คะแนนเต็มร้อย💯// ในเสตจจะคอยตามอาเจ๊จิโร่ตลอดเว คอยตบมุกให้แบบซื่อๆ 😂 ซีนต่อสู้ก็ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ ด้วยความที่เป็นดาบใหญ่ แถมยังสวมชุดรบที่ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ผมก็ยาววววววว เลยทำให้เราเห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่พี่ก็ทำท่าทางต่อสู้ออกมาได้ดี ทุกอย่างดูพลิ้วไหว ท่วงทา การกวัดแกว่งดาบงดงามมากๆ ><

CCI17019_0007โฮเนะบามิ โทชิโร่ รับบทโดย คิตากาว่า นาโอยะ (ลูกกกกกก)
ลูกกกกกกก ลูกแม่~~~~~~~~~~~ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆลูกแม่ก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกก ❤❤ //ดึงสติแป๊บ….3…2….1…โอเค// แม้บทจะน้อยถึงขั้นน้อยมาก แต่โฮเนะบามิก็ถือเป็นตัวละครที่มีบทพูดสำคัญเลยล่ะ แม่นี่อยากลุกขึ้นปรบมือตะโกนดังๆว่า “พูดดีมากลู๊กกกกกก” แต่ทำไม่ได้ 5555555 ดูเหมือนว่าโฮเนะของบุไตไม่ชอบให้เรียกว่า “บามิ” สินะ ฟู่ววววว แม่โล่งอก! แม่เรียกโฮเนะมาตลอดเลยลูกขาาาา 😘 ซีนที่พี่น้องบ้านอาวาตะอยู่ด้วยกันหลายๆเล่ม เห็นแล้วแบบ…แกรรรรรรร มันปริ่มอ่ะ น้ำตาไหลถึงพื้น TUT อยากให้บุไตทำเรื่องบ้านอาวาตะบ้าง ให้โฮเนะกับนามะขึ้นเสตจเดียวกันบ้าง เราจะขอบพระคุณ ฮรื่อออออออ ปล. ทั้งนี้ทั้งนั้น…ดีใจมากๆที่ได้ไปดูโฮเนะบามิของนาโอยะคุงกับตาตัวเอง น้องน่ารักมากเลยยยยย หวังว่าจะได้เห็นน้องในบทโฮเนะบามิอีกนะ ❤ (คราวนี้ตัดสินใจเขียนจดหมายให้น้องด้วย เขิล >////< หวังว่าน้องจะรับรู้ว่ามีแฟนไทยตัวเล็กๆ(?)คนนึงคอยให้กำลังใจอยู่นะ ว่าแต่…จะอ่านที่แม่เขียนไปรู้เรื่องมั้ยน้อ ฮาาาาาา)

ฮากาตะ โทชิโร่ รับบทโดย คิสุ สึบาสะ (สึบะจัง)8
ขอแต่งตั้งให้เป็นเด็กป่วนประจำฮงมารุ อะไรจะลิงได้ขนาดนี้ 5555 แต่ถึงจะซน สึบะจังก็ยังเล่นเป็นฮากาตะออกมาได้น่ารักมากๆเหมือนเดิม (>w<) จะมีซีนนึงที่ฮากาตะล้อเลียนบทพูดของนิฮงโก แล้วดัดเสียงให้เข้มๆ “ยิ่งดื่ม ก็ยิ่งแข็งแกร่ง!!” คือแบบ…อยากตี!! 5555555 ฮากาตะเหมือนเป็นคนที่คอยสร้างสีสันให้ฮงมารุคนนึงเลย มีฮากาตะที่ไหนมีความเฮฮาทุกที่ ท่าทางสึบะจังจะถนัดคาแรคเตอร์แนวเรียกเสียงฮาเหมือนกันนะ 😂 นี่ชอบสำเนียงฮากาตะของสึบะจังมากกกกกกกกก น่ารักกกกกกกกก ❤ อะไรจะพูดออกมาได้อย่างธรรมชาติแบบนี้!!! แต่เสตจนี้หนูจะตามอาเจ๊จิโร่ไปก๊งเหล้าตลอดแบบนั้นไม่ได้นา อิจินี่จะตีเอา 55555

9มาเอดะ โทชิโร่ รับบทโดย โอซากิ นัทสึกิ
นัทสึกิคุงโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรเหมือนมาเอดะเลย!!!! น้ำเสียง ท่าทางคือมาเอะดะชัดๆ ได้เห็นน้องครั้งแรกถึงกับตกใจในความเหมือน ดูแล้วไม่มีความขัดใจเลย เป็นมาเอดะที่ดีมากๆ //กราบคนแคสติ้ง// เสตจนี้มาเอดะจะรับบทเป็นคนคอยเกริ่นนำในแต่ละตอน (คือเสตจนี้จะแบ่งตอนออกเป็นตอนย่อยๆ จำไม่ได้ว่ากี่ตอน น่าจะ 5 หรือ 6 ตอนมั้ง) แล้วก็คอยตามช่วยโกะโคไทหาของอีกทีนึง 55555 มาเอดะของบุไตดูเป็นพี่ชายที่ดีเลยล่ะ >”< คอยซัพพอร์ตโกะโคไทตลอดเวลาเลย เห็นแล้วแม่ยกบ้านอาวาตะอย่างชั้นถึงกับปลื้มปริ่ม TUT ซีนต่อสู้ได้เห็นมาเอดะโหมดจริงจังแล้วขนลุก ขาน้องสวย—เอ๊ย! 555 (บ้านอาวาตะขาสวยทุกคนค่ะ เนียนกริบ และขาวสว่างยิ่งกว่าอนาคตของชั้นซะอีก 🤩)

โกะโคไท รับบทโดย ชิทาระ กิงกะ10
เฮ้ยแกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! น้องน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 😍 ขอกราบคารวะคนแคสติ้งอีกที ทำไมถึงได้หาคนที่เป็นโกะโคไทได้เป๊ะขนาดนี้ น้ำเสียง ท่าทางเวลาพูดนี่อย่างเหมือน!!!! ประทับใจมาก 👏👏 ถึงเสตจนี้น้องจะหาของทั้งเรื่องก็ตาม 5555555 ความจริงบอกไปเลยว่าหาถุงเล็กๆอยู่ก็ได้นะลูก ทำเขาวุ่นกันทั้งฮงเนี่ย 😂 ประทับใจซีนต่อสู้ของโกะโคไทอ่ะ เห็นภายนอกดูเหมือนไม่สู้คน แต่เวลาเอาจริงน้องก็ไม่ใช่เล่นๆนะ! ตอนโหมดจริงจังนี่แม่แทบกรี๊ดดดดดดดดดด!!

โอเค! มาถึงสุดท้ายแล้ว…เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเขียนยาวมากกกกกกกกกก 😂 ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านเราหวีดอย่างบ้าคลั่งมาจนถึงตรงนี้ //กราบ//  สำหรับบุดาบเสตจนี้ เราคิดว่าเป็นเสตจที่ฮีลใจจากเสตจฮิเดนได้เป็นอย่างดีเลย ฮีลได้มากเกินไปด้วย เพราะฮาเกินไป ฮาจนแบบ…นี่ตูดูตลกคาเฟ่อยู่เรอะ 55555 😂 ไม่รู้ว่าเสตจหน้าจะเล่นเรื่องอะไร แต่เชื่อว่าเสตจที่ยามัมบะกิริ คุนิฮิโระไปคิวาเมะกลับมา แล้วสามารถช่วยปู่ได้จะมาถึงสักวัน >__< จะตั้งตารอถึงตอนนั้นนะ!

–また、いつぞや始めよう!-

 

เกี่ยวกับ yukino_yukitty

✿ติ่ง2.5 บล๊อกเวิ่น บล๊อกแปล (แปลบ้างไม่แปลบ้างแล้วแต่อารมณ์)
เรื่องนี้ถูกเขียนใน Uncategorized และติดป้ายกำกับ , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น