มาจะกล่าวบทไป ถึงเรื่องราวบุไตดาบ ‘เสตจอิเดน’ ฉบับยาวมาก ยาวเหลือเกิน ยาวจริงๆ ยาวจริงจัง!!?!

toustai_logo_white_y

!!!!!SPOILER ALERT!!!!!

== คำเตือน(เช่นเคย) ==
บทความที่ท่านจะได้อ่านดังต่อไปนี้ มีความสปอยขั้นสูงสุด
สปอยแบบหมดเนื้อหมดตัว สปอยละเอียดยิบ สปอยเละ สปอยแหลกลาญ
สปอยอย่างแรง สปอยทั้งเรื่องงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
หากยังไม่ได้ชมบุไตดาบเสตจอิเดน แล้วกำลังตั้งตารอชมในแผ่น
หรือใครที่ซีเรียสเรื่องสปอยมากๆ กรุณากดปิดนะคะ (>__<)

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า เนื่องด้วยเสตจนี้เป็นเรื่องราวของเรียวมะ กับเหล่าดาบโทสะ
ดังนั้นภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นสำเนียงโทสะ ซึ่งฟังยากเหลือเกิล T_T //หัวโขกกำแพง
แถมเนื้อเรื่องก็ซับซ้อนหนักหน่วง เขียนไปเขียนมาเหมือนสมองมันจะชัตดาวน์ตัวเองเสียอย่างนั้น
ประกอบกับความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่ทุกวันนี้แทบจะถอยหลังลงคลอง ทำให้บางช่วงก็เอ๋อๆไป
บางช่วงฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง และกรีดร้องว่าพวกเอ็งพูดอะไรก๊านนนน!!!ก็หลายหน
ดังนั้น หากเราฟังหรือแปลผิดพลาดไปประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจริงๆนะ
ใครที่อยากจะเสริมหรือแก้อะไรตรงไหนบอกมาได้เลยนะคะ เราจะขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ><
(ปล. เนื้อเรื่องของบุไตดาบจะชอบมีโน่นมีนี่แฝงเอาไว้เนื้อเรื่องอยู่เสมอ กระทั่งบทพูดสั้นๆ
ซึ่งเราไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้หมดจริงๆ กราบขออภัย T_T)

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

**จะเริ่มสปอยแล่วเน้อ**

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

โทวเคนรันบุ ฮาจิเมโย่ว~~

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

舞台「刀剣乱舞」維伝 朧の志士たち
(ตำนานเชื่อมเกี่ยว : เหล่านักรบผู้คลุมเครือ)

mv

ย้อนกลับไปในศักราชเคเอที่ 6 (ค.ศ. 1853)
พลเรือจัตวา แมทธิว ซี เพอร์รี่ แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
ได้นำเรือรบขนาดใหญ่ (ในยุคนั้นเรียกกันว่า “เรือดำ”) 4 ลำ เข้ามาในอ่าวโตเกียว
สร้างความแตกตื่นให้กับชาวเอโดะผู้ไม่เคยเห็นเรือของชาวต่างชาติเป็นอันมาก
และแน่นอนว่ารวมไปถึงตัว ‘ซากาโมโตะ เรียวมะ’ เองด้วย

เรียวมะและพรรคพวกเห็นเรือรบต่างก็แตกตื่นตกใจว่ามันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
การมาของเรือรบอาจสร้างความพลิกผันแก่ญี่ปุ่นได้ จึงได้รีบกลับไปแจ้งพรรคพวกของตน
เมื่อคุยกันว่าตอนนี้รัฐบาลบาฟุคุยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และคงไม่มีพลังจะไปสู้รบด้วยได้
‘โอคาดะ อิโซ’ สหายของเรียวมะก็ร้อนรนว่าตนจะไปแอบขึ้นเรือรบนั่นแล้วสังหารคนในเรือเสีย
แต่ก็ถูกห้ามไว้ ก่อนที่เรียวมะจะบอกว่า “พวกเราจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องประเทศนี้
ทุกแคว้นจะต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่แค่โทสะ แต่รวมถึงโจชู และซัทสึมะเองก็เช่นกัน
พวกเราจะต้องปกป้องประเทศนี้ในฐานะ⁽¹⁾นักรบผู้อุทิศตนเพื่อชาติ”

7ed06f69gy1gbp2gywqwij212o0il7gn

ทว่าหลังจากนั้น รัฐบาลบาฟุคุที่มีไทโร ‘อิอิ นาโอซึเกะ’ เป็นผู้นำ
ได้เดินหน้าเปิดประเทศรับต่างชาติ พร้อมดำเนินมาตรการกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม
มีการจับกุมคุมขัง และประหารชีวิตบรรดาไดเมียวที่เห็นต่าง
ทำให้สร้างความโกรธแค้นกับฝ่ายต่อต้านต่างชาติเป็นอย่างมาก
จนในที่สุด อิอิ นาโอซึเกะ ก็ถูกลอบสังหารระหว่างเดินทางไปยังประตูซากุราดะ
(เหตุการณ์ดังกล่าวเรียกว่า เหตุการณ์นอกประตูซากุราดะ)

ในศักราชบุนคิวที่ 2 (ค.ศ. 1862)
หลังจากที่โอคาดะ อิโซทำการลอบสังหารโยชิดะ โทโย (ขุนนางชั้นสูงของแคว้นโทสะ
ซึ่งมีแนวคิดปฏิรูปประเทศด้วยการยอมค้าขายกับต่างชาติ) ได้สำเร็จ
‘ทาเคจิ ฮัมเปตะ’ ซามูไรผู้นำแคว้นโทสะ ก็ได้ก่อตั้ง ‘กลุ่มโทสะคินโน ขึ้นมา
(กลุ่มโทสะคินโน หรือ “กลุ่มผู้ภักดีแห่งโทสะ” เป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนแนวคิด
“ซนโนโจอิ ” หรือ “เทิดทูนจักรพรรดิ ขับคนป่าเถื่อน” )
แต่ต่อมาไม่นานก็ถูกจับกุมเพราะต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารโยชิดะ โทโย
สุดท้ายจึงถูกบังคับให้ทำเซ็ปปุกุ ส่วนโอคาดะ อิโซถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ

ก่อนที่ทาเคจิ ฮัมเปตะจะทำการเซ็ปปุกุตนเอง เขาได้กล่าวขึ้นมาว่า
“เรียวมะ…เจ้าเคยพูดเอาไว้สินะ ว่าพวกเราคือนักรบที่จะปกป้องประเทศญี่ปุ่น
แม้ข้าจะตายลงและเหลือเพียงวิญญาณ ก็จะยังคงเป็นนักรบของประเทศแห่งนี้…”
ส่วนโอคาดะ อิโซในสภาพถูกมัดและกำลังรอถูกประหารชีวิตได้ร้องลั่น
“ข้ายังไม่อยากตาย ข้ายังไม่อยากตาย!!! ข้าแค่จะปกป้องประเทศนี้เท่านั้น!!!!
เรียวมะ ช่วยข้าด้วย เรียวมะ!!!!!!!!!!”
สุดท้ายทั้งทาเคจิ ฮัมเปตะ และโอคาดะ อิโซก็ต้องจบชีวิตลง…

เมื่อเรียวมะได้อ่านจดหมายแจ้งเรื่องการตายของทาเคจิ และอิโซ
เจ้าตัวก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“ทาเคจิซัง อิโซซัง…..เพราะเหตุใดกัน!!?
ทุกคนบอกว่าจะมีชีวิตอยู่จนถึงที่สุดเพื่อเชื่อมประเทศนี้ไปสู่อนาคตมิใช่หรือ
แล้วทำไมถึงมาตายไปแบบนี้!!!!” เรียวมะร่ำไห้เสียใจ ฟุบหน้าลงกับพื้น
“หากข้าไม่หนีออกจากแคว้นโทสะ ข้าคงช่วยพวกเขาทั้งสองไว้ได้…
หากพวกทาเคจิซังยอมเข้าใจแล้วออกจากแคว้นไปกับข้าก็คง ถ้าหาก……”
เรียวมะชะงัก “ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ นี่ข้ากำลังพูดเรื่องงี่เง่าอะไรอยู่กัน
ต่อให้เสียใจสักเพียงใด เวลาก็ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้แล้ว…..
ข้า…ไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้…”

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟ้าคำรามลั่นดังไปทั่วสารทิศ
กองทัพข้ามเวลาจำนวนมากปรากฎขึ้นรอบกายของซากาโมโตะ เรียวมะ…

7ed06f69gy1gbp2k2ffurj210v0h47fm
——————————————————————————-

ตัดภาพมาที่ฮงมารุ มีข่าวแจ้งจากรัฐบาลส่งมาถึง
ภาพของบุคคลปริศนาปรากฎขึ้นที่หน้าจอ
“…………เฮ้ ได้ยินมั้ย? ……มีคำสั่งให้จัดทัพออกรบสำรวจพิเศษ
ณ โลกที่ถูกละทิ้ง เส้นทางสู่ศักราชบุนคิว แคว้นโทสะ
ที่ถูกเปลี่ยนแปลงประวัติศาตร์ไปได้เปิดออกชั่วคราว
แม้จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่แต่ละฮงมารุจะต้องจัดหนึ่งหน่วยทัพด้วยดาบ 5 เล่ม
แล้วส่งออกรบที่แคว้นโทสะในปี 1863
ท่านจะต้องร่วมมือกับผู้ตรวจกาล และทำภารกิจสำรวจนี้ให้สำเร็จลุล่วง…
สำหรับการเข้าร่วมในยุทธการนี้…เราไม่มีการบังคับ
แต่เราจำเป็นต้องมีโทวเคนดันชิที่มีความเก่งกาจสามารถอยู่พอสมควร
รีบๆมาช่วยในการสำรวจเร็วเข้า …..ก่อนอื่น จงมายังสะพานฮาริยามะซะ”

ด้วยเหตุนี้ฮงมารุจึงได้ส่งดาบทั้ง 5 เล่ม ได้แก่
มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ , อิสึมิโนะคามิ คาเนะซาดะ
โฮริคาว่า คุนิฮิโระ , โคการาสุมารุ และสึรุมารุ คุนินากะ
เดินทางออกรบในภารกิจพิเศษบุนคิวโทสะฮังในฐานะกองทัพหน่วยที่ 2

——————————————————————————-

เมื่อดาบทั้ง 5 เล่มมาถึงสะพานฮาริยามะ การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น มุตสึชักปืนออกมายิงต่อสู้
อิสึมิโนะคามิเห็นก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก “ใช้ปืนอีกแล้วเรอะ เป็นดาบแท้ๆอย่าใช้ปืนสิ”
มุตสึก็ยิ้มๆแล้วเอ่ยปากถามอีกฝ่ายไปว่าจะลองใช้ดูบ้างไหมล่ะ เดี๋ยวให้ยืม
อิสึมิโนะคามิปฏิเสธเสียงแข็ง “ใครจะไปใช้กัน ข้าน่ะใช้ดาบก็เพียงพอแล้ว!”

ระหว่างที่คุยๆกันอยู่นั้น กองทัพข้ามเวลาจำนวนมากก็โผล่เข้ามาโจมตีพวกเขา
แต่อยู่ๆก็มีใครคนหนึ่งโผล่เข้ามาช่วยพวกเขาไว้ ทำให้ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อกำจัดกองทัพข้ามเวลาไปได้หมด เจ้าตัวจึงเผยว่า เขาคือ ‘ฮิเซ็น ทาดาฮิโระ’
มุตสึเห็นแบบนั้นก็ยิ้มร่าดีใจ ปรี่เข้าไปทักทายอย่างสนิทสนมว่า “เจ้าเองเรอะนี่”
แต่ฮิเซ็นกลับทำหน้าเซ็งๆ “ชิ เจ้าเองเรอะ มุตสึโนะคามิ” แล้วก็ทำท่าไม่สนใจเพื่อนเก่านัก
ก่อนจะอธิบายว่าที่แห่งนี้คือแคว้นโทสะที่แตกต่างไปจากประวัติศาตร์ที่แท้จริง
ภารกิจของทุกคนคือการหาตัวหัวหน้าของที่นี่ให้เจอ และหาเบาะแสที่จะแก้ไขประวัติศาตร์นี้

มุตสึ อิสึมิโนะคามิ กับโฮริรีบวิ่งตามฮิเซ็นไป ในขณะที่สึรุยังคงยืนมองไปรอบๆอย่างพิจารณา
โคการาสุมารุเห็นแบบนั้นเลยถามสึรุว่า “เป็นอะไรไปรึ?”
สึรุ “ไม่มีอะไรหรอก…แค่สำหรับตัวข้าที่ย้ายไปโน่นทีไปนี่ที นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาโทสะน่ะนะ”
โคการาสุมารุ “งั้นหรือ บนโลกใบนี้มีเรื่องที่ไม่รู้มากมายกว่าเรื่องที่รู้แล้วอยู่มากนัก
พ่อคนนี้เอง แม้จะผ่านกาลเวลามานับพันปีก็ยังมีแต่เรื่องที่ไม่รู้เต็มไปหมด”
สึรุ “ว่าแต่ว่า…โทสะเนี่ย…เป็นสถานที่ที่ชวนให้กระอักกระอ่วนแบบนี้รึ”
สีหน้าของทั้งสองพลันเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปกติบางอย่าง
โคการาสุมารุตอบเสียงเรียบ “ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร พวกเราแค่ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น”
สึรุ “อา แน่นอน”

ทางด้านอิสึมิโนะคามิกับโฮริคาว่า พวกเขายังคงเดินตามหลังมุตสึกับฮิเซ็นมาเรื่อยๆ
โฮริมองบ้านเมืองรอบๆก็อดตื่นเต้นไม่ได้ “ครึกครื้นดีจังเลย ที่นี่เป็นบ้านเกิดของเรียวมะสินะเนี่ย
พูดถึงปีบุนคิวที่ 3 ก็เป็นช่วงที่เพิ่งก่อตั้งกลุ่มชินเซ็นกุมิพอดี ตอนนั้นยังเป็นกลุ่มโรชิกุมิ
แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่คนๆนั้นมีชีวิตอยู่สินะ….”
อิสึมิโนะคามิก็ว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับภารกิจครั้งนี้ และเรียวมะกับคนๆนั้นก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกันโดยตรง
โฮริ “แต่ถ้าประวัติศาตร์มันต่างไปนิดหน่อย สองคนนั้นอาจจะเคยประดาบกันก็ได้นะครับ”
ว่าแล้วก็ทำสีหน้าตกใจ “อ๊ะ ถ้าเป็นแบบนั้น…พวกเราก็อาจจะเคยประดาบกับมุตสึโนะคามิซังก็ได้—”
“คุนิฮิโระ!” อิสึมิโนะคามิเสียงเข้ม “ทั้งเรื่องประวัติศาตร์ทั้งเรื่องดาบน่ะเอาไว้ทีหลังเถอะ
ตอนนี้ต้องตามหาตัวผู้ตรวจกาลกับมุตสึโนะคามิให้เจอก่อน เพราะเรามาที่นี่ก็เพื่อทำภารกิจนะ”
โฮริทำหน้าจ๋อย “ขอโทษครับ” ก่อนจะมองหาพวกมุตสึว่าไปไหนกันแล้ว ตามหลังมาแท้ๆ
สักพักก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดถามอิสึมิโนะคามิว่า “ถนนเส้นนี้…เมื่อกี๊เราผ่านมาแล้วรึเปล่าครับเนี่ย?”
แต่อิสึมิโนะคามิบอกว่าโฮริคงคิดไปเอง เพราะถนนเส้นไหนมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหล่ะ

แล้วอยู่ๆพวกเขาก็เจอเข้ากับกองทัพข้ามเวลาตนนึง มันหนีไปอย่างไว พวกเขาจึงพากันไล่ตาม
ทว่าดันบังเอิญไปเจอคนของพรรคโทสะคินโนที่กำลังไล่ล่าชายคนหนึ่งเข้าพอดี
แถมยังโดนเข้าใจผิดว่าเป็นพวกเดียวกับชายคนนั้นอีก พวกเขาจึงต้องสู้โดยไม่มีทางเลือก
ตอนแรกทั้งสองลงความเห็นกันว่าจะไม่ชักดาบออกจากฝัก เพราะคู่ต่อสู้คือมนุษย์
แต่กลับผิดคาด เพราะฝีมือดาบและพละกำลังของพรรคโทสะคินโนนั้นแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้มาก
ระหว่างต่อสู้กันอยู่นั้น มุตสึโนะคามิกับคนอื่นๆก็เข้ามาช่วยได้ทันเวลา

ทว่าพรรคโทสะคินโนเข้าใจว่าพวกมุตสึโนะคามิคือศัตรูจึงหมายจะเข้าโจมตี
ทันใดนั้นเอง ‘ซากาโมโตะ เรียวมะ’ ก็ได้วิ่งเข้ามากลางวง แล้วห้ามการต่อสู้เอาไว้
แต่คนของพรรคโทสะคินโนไม่ฟังเรียวมะ เพราะเรียวมะได้หนีออกจากแคว้น กลายเป็นโรนินไปแล้ว
เรียวมะจึงได้ชักปืนออกมาขู่ “ดาบน่ะมันล้าสมัยไปแล้ว ยุคสมัยนี้น่ะมันต้องปืนสิ !!”
สึรุได้ยินก็เข้าไปเอ่ยแซวมุตสึโนะคามิ “เคยได้ยินประโยคนี้ที่ไหนก็ไม่รู้เนอะ”
พอเห็นสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดี เรียวมะจึงยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด ทุกคนพากันหมอบหลบ
เรียวมะเลยฉวยจังหวะชุลมุนนี้ลากมุตสึโนะคามิหลบหนีไป ทุกคนก็วิ่งตาม

เรียวมะกับมุตสึวิ่งนำมาก่อน แต่อยู่ๆมุตสึก็ชะงักเท้า แล้วพูดกับคนตรงหน้า
“เรียวมะ ข้าน่ะ…ไม่อยากจะเจอเจ้าเลยแฮะ”
เรียวมะ “อย่าพูดอย่างนั้นสิ ข้ากับเจ้าคงมีชะตาอะไรร่วมกันสักอย่างแหล่ะน่า”
แล้วเขาก็ลากมุตสึโนะคามิให้วิ่งหนีต่อ โดยมีโทวเคนดันชิคนอื่นๆวิ่งตามไปติดๆ

ในขณะนั้นโฮริได้สัมผัสถึงอะไรบางอย่าง อิสึมิโนะคามิเห็นคู่หูยืนนิ่งคิ้วขมวดก็ถามว่าเป็นอะไรไป
โฮริ “นี่ คาเนะซัง รู้สึกว่าเมืองนี้มันแปลกๆไหมครับ?”
อิสึมิโนะคามิ “อะไรเรอะที่ว่าแปลก?”
โฮริ “เอ่อ…ไม่มีอะไรครับ ผมอาจเข้าใจอะไรผิดไปเองก็ได้”
สึรุเดินกลับเข้ามาหาทั้งสองคนที่ยืนคุยกันอยู่ “แต่การที่ซากาโมโตะ เรียวมะอยู่ที่โทสะช่วงเวลานี้
ก็ดูท่าว่าที่นี่คงเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างที่ฮิเซ็นบอกเอาไว้ไม่ผิดแล้วล่ะนะ”

——————————————————————————-

ภาพตัดมาที่ทาเคจิ ฮัมเปตะยืนอยู่ลำพัง
“เรียวมะ เจ้ากลับมาแล้วงั้นรึ? ไม่สิ ข้าต้องพูดว่ามันได้เริ่มต้นขึ้นจากเจ้า ซากาโมโตะ เรียวมะ”
สิ้นคำของทาเคจิ มีดวงตามากมายนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นพร้อมกับเสียงปริศนา
“…ส่งมา ส่งเรื่องราวมา…”

S__3268620

——————————————————————————-

เรียวมะพาหนุ่มดาบทั้ง 6 มายังโรงเตี๊ยมที่ตนพักอยู่ แล้วสั่งให้เด็กรับใช้เตรียมเหล้ามาให้พร้อม
พอเข้ามาในห้อง สึรุก็ว่า “จะว่าไป ข้าก็ไม่คิดเลยนะว่าจะได้มาพบกับซากาโมโตะ เรียวมะเช่นนี้”
เรียวมะงง “หืม หมายความยังไงรึ?”
สึรุรู้ตัวว่าพลั้งปากไปเสียแล้วก็ตกใจตาโตเท่าไข่ห่าน สองมือรีบตะครุบปากตัวเอง
“ถ้าเป็นโทสะก็ต้องซากาโมโตะ เรียวมะไงครับ เพราะท่านเป็นคนดังนี่นา” โฮริรีบพูดแก้ต่าง
มุตสึ “ใช่ๆ ถ้าพูดถึงโทสะก็ต้องซากาโมโตะ เรียวมะล่ะนะ”
เรียวมะ “โอ้ เจ้าเองก็เป็นคนโทสะสินะ”
มุตสึ “ก็นะ…โทสะเป็นบ้านเกิดข้าเอง”
อิสึมิโนะคามิ “เฮ้ย มุตสึโนะคามิ เจ้าอย่าพูดอะไรที่มันมากเรื่องมากความสิ”
เรียวมะได้ยินก็ตาตื่น “นี่เจ้าชื่อว่า มุตสึโนะคามิ งั้นรึ? ชื่อเหมือนดาบเลยน้อ!!”
คราวนี้เป็นอิสึมิโนะคามิที่พลั้งปาก เจ้าตัวจึงตกใจตะครุบปากตัวเอง ก่อนจะโดนสึรุฟาดไปดังอั๊ก!

เรียวมะเดินเข้ามาหามุตสึ “มุต สึ โนะ คามิ…ถ้างั้นก็เป็น มุตซัง สินะ!!”
ทุกคนทำหน้างง เรียวมะเลยอธิบายประมาณว่าพอเขาเป็นโรนิน (ซามูไรไร้สังกัด) แล้ว
มันจะปลอดภัยกว่าถ้าใช้ชื่อปลอม และตอนนี้เขาเองก็ใช้ชื่อว่า ‘นุเคะโรคุ’ อยู่

สึรุ “นุเคะโรคุ… งั้นก็ นุซัง สินะ!!”
เรียวมะ “ใช่แล้ว!!”
โคการาสุมารุ “งั้นข้าต้องขอฝากตัวด้วยนะ นุซัง จะเรียกข้าว่า พ่อ(จิจิ)ก็ได้นะ”
เรียวมะ “จิจิ?”
สึรุ “ส่วนข้าคือ สึซัง!”
เรียวมะ “สึซัง นุซัง มุตซัง จิจิ…มันก็แปลกดีเนาะ ฮ่าๆๆๆ”

พอเหล้ามาเสิร์ฟทุกคนก็เข้ามาล้อมวง ยกเว้นฮิเซ็นที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
เรียวมะรินเหล้าไปก็ถามไปว่าชุดพวกเจ้านี่สีสันฉูดฉาดจังน้อ ไปได้มาจากที่ไหนน่ะ
ทุกคนอึกอัก โฮริเลยตอบเลี่ยงๆไปว่า “นายท่านของพวกเราให้มาน่ะครับ”
เรียวมะได้ยินก็ตกใจยืนขึ้น สองมือกระชับดาบอย่างระแวง “พวกเจ้าเป็นคนของแคว้นไหนกัน!?!”
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังนึกคำตอบอยู่นั้น สึรุก็พลั้งปากไปอีกว่า “ฮงมารุไงล่ะ”
ผ่านไปสามวิถึงจะรู้ว่าตัวเองหลุดปากไปอีกแล้ว เจ้าตัวจึงได้ตะครุบปากตัวเองทำตาโต
แต่เรียวมะก็ไม่ได้สงสัยติดใจอะไร เขาคิดว่าฮงมารุคือชื่อแคว้นใดสักแคว้นนึงเท่านั้น

อิสึมิโนะคามิหันไปพูดกับโฮริว่าทำไมเรียวมะถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เรียวมะได้ยินก็ว่า “อะไรกัน พูดเหมือนว่าการที่ข้ามาอยู่ที่นี่ มันเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นแหล่ะ”
“ข…ข้าไม่ได้บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้สักหน่อยนี่…” อิสึมิโนะคามิเอ่ยกลบเกลื่อน

ฮิเซ็นที่ยืนไม่สบอารมณ์มานานก็เริ่มทนไม่ไหว
“นี่ไม่ใช่เวลามาทำอะไรแบบนี้นะ!! รีบไปหาอาจารย์กันได้แล้ว”
“คนของพรรคโทสะคินโนยังตามล่าพวกเจ้ากันอยู่น้อ รออยู่นี่กันก่อนเถอะน่า” เรียวมะเสนอ
ฮิเซ็น “ก็บอกแล้วไงว่านี่ไม่ใช่เวลามาทำอะไรแบบนี้!!!”
โคการาสุมารุเห็นฮิเซ็นเริ่มโมโห จึงลากไปกระซิบว่าเรื่องนี้มันอาจจะเกี่ยวข้องกับพวกเราก็ได้
สึรุมารุเดินตามมาเสริมอีกคน “มันอาจจะมีเบาะแสอะไรก็ได้นา” ฮิเซ็นเลยยอมนั่งลงดีๆ
มุตสึขอบคุณที่เรียวมะเข้ามาช่วยพวกเขา โฮริสงสัยเลยถามไปว่าทำไมถึงช่วยพวกเขาเอาไว้ล่ะ?
เรียวมะก็ว่า “นั่นสิ เพราะอะไรกันน้อ” ก่อนจะเดินเข้าไปหามุตสึ
“มุตซัง ข้าน่ะรู้สึกว่าท่านไม่ใช่คนอื่นคนไกลยังไงก็ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกทีข้าก็กระโจนเข้าไปช่วยซะแล้ว”
มุตสึยิ้ม “งั้นรึ…ข้าเองก็รู้สึกว่าท่านไม่ใช่คนอื่นคนไกลเช่นกัน”
แล้วทั้งสองก็ชนจอกเหล้ากัน ก่อนที่สึรุจะเปิดประเด็นถามขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่

เรียวมะบอกว่าตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน พอกลับมาที่โทสะ มันก็เป็นแบบที่เห็นแล้ว
ตอนแรกเขาเองก็เป็นคนของพรรคโทสะคินโน แต่นั่นก็เพราะถูกทาเคจิขอร้องนั่นแหล่ะ
ตอนนี้น่ะ เขามีความคิดต่างไปจากแนวคิดของพรรคโทสะคินโนแล้ว
เขาคิดว่าการเอาแต่ต่อต้านชาวต่างชาติน่ะมันไม่มีทางทำให้ประเทศนี้เดินหน้าไปได้หรอก
ตอนที่ได้เห็นเรือรบ มันทำให้เขารู้สึกว่าญี่ปุ่นไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นทั้งๆแบบนี้ได้
และถึงแม้ยุคของโทกุกาวะจะดำเนินสืบเนื่องมากว่า 260 ปีแล้วก็ตาม
แต่รัฐบาลบาคุฟุกลับยังไม่สามารถรวมประเทศให้เป็นหนึ่งได้
สิ่งที่จำเป็นคือยุคสมัยใหม่ต่างหาก และตอนนี้ยุคสมัยก็ได้เปลี่ยนจากดาบไปสู่ปืนแล้ว

สึรุ “ด้วยเหตุนั้น เจ้าจึงออกจากแคว้นโทสะ แล้วกลายเป็นโรนินสินะ”
เรียวมะ “พูดง่ายดายจริงน้อ แต่ก็ถูกอย่างที่เจ้าว่านั่นแหล่ะ”
มุตสึ “ใช่แล้วล่ะ ยุคของดาบน่ะมันล้าสมัยไปแล้ว”
“พูดอะไรออกมาน่ะ ยุคสมัยของดาบมันยังไม่จบสักหน่อย!!” อิสึมิโนะคามิรีบค้าน
มุตสึ “แต่ถ้าเอาดาบกับปืนมาสู้กัน ยังไงปืนก็ชนะอยู่ดีไม่ใช่เรอะ”
อิสึมิโนะคามิได้ยินแบบนั้นก็โมโห เอ่ยปากท้าว่า งั้นลองมาดวลกันสักตั้งไหม
แล้วทั้งสองคนก็ทำท่าจะตีกัน โดยมีเรียวมะกับโฮริที่นั่งอยู่ข้างๆพยายามห้าม

เรียวมะยิ้มก่อนอธิบายเพิ่มเติมว่า “ไม่ใช่ว่าจะเร่งรีบเปลี่ยนไปสู่ยุคของปืนในทันทีหรอกน่า
ก่อนอื่นก็ต้องรับวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามา แล้วก็ทำให้ประเทศนี้แข็งแกร่งจนไม่แพ้ชาติอื่นๆ
แต่โทสะในเวลานี้น่ะ มีความเหลื่อมล้ำทางสถานะของชนชั้นอยู่มากนัก
ทั้งข้าและทาเคจิซังต่างก็เป็นซามูไรชั้นล่าง พวกชนชั้นเจ้านายคงเห็นเป็นเพียงสัตว์ชั้นต่ำเท่านั้น”
อิสึมิโนะคามิ “เจ้าก็เลยอยากจะเปลี่ยนแปลงมันงั้นรึ?”
เรียวมะตอบว่า ใช่ เขาอยากจะเปิดประเทศนี้ และความฝันของเขาก็คือ
การที่ได้เห็นความเท่าเทียมกันของทุกๆสถานะ ทุกๆชนชั้น ทุกคนจะได้มีชีวิตอิสระ
จะไม่มีแบ่งแยกชนชั้นเจ้านายชั้นสูงหรือชนชั้นล่าง ทุกคนจะเป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกัน!!
เขาจะเป็นซากาโมโตะ เรียวมะที่เป็นคนญี่ปุ่น นี่แหล่ะคือความฝันของเขา

7ed06f69gy1gbp34xfyv4j212f0einkz

โคการาสุมารุกับสึรุมารุได้ฟังต่างก็พูดว่ามันเป็นความฝันที่ดีทีเดียว
ส่วนมุตสึยิ้มร่า “ความฝันนั้นมันจะต้องเป็นจริงแน่นอน
ประเทศนี้ในภายภาคหน้าจะต้องเป็นอย่างที่ท่านปรารถนาแน่!”
เรียวมะได้ฟังก็มีกำลังใจ บอกว่า ถ้าอย่างนั้นเขาต้องพยายามแล้ว
และเพื่อการนั้น เขาจึงจำเป็นต้องไปเกลี้ยกล่อมทาเคจิ ฮัมเปตะให้เข้าใจ
เพราะอนาคตภายภาคหน้าทาเคจิคือบุคคลสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้
ดังนั้น..เขาจะปล่อยให้ทาเคจิ ฮัมเปตะมาตายที่นี่ไม่ได้

โคการาสุมารุชะงัก “ช่างเป็นคนที่พูดจาแปลกประหลาดเสียจริงนะ”
โฮริ “หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
โคการาสุมารุ “ทำไมนุซังถึงได้พูดออกมาว่าทาเคจิ ฮัมเปตะจะตายเล่า?
ราวกับว่าตนเองเป็นผู้มองเห็นอนาคตได้เสียอย่างนั้น…”

พอได้ฟังโคการาสุมารุพูด ทุกคนจึงได้เอะใจขึ้นมา ก่อนพากันจับจ้องไปที่เรียวมะ
เรียวมะเองก็ทำท่าเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป “นี่ข้าพูดอะไรที่เป็นลางไม่ดีออกไปงั้นรึ”
ก่อนจะแสร้งหัวเราะแล้วบอกว่าคงเพราะฤทธิ์เหล้าล่ะมั้ง

ฮิเซ็นที่ทนรอต่อไปไม่ไหวลุกพร่วดตรงไปที่ประตู
อิสึมิโนะคามิเอ่ยถาม “เฮ้ย ฮิเซ็น เจ้าจะไปไหนน่ะ?”
ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาเอ้อระเหยอยู่ที่นี่ แล้วทำท่าจะเปิดประตูออกไป
แต่ก็ถูกเรียวมะขัดขึ้น “เจ้าน่ะ มาดื่มกันไหม?” ฮิเซ็นตอบกลับอย่างหงุดหงิด “พูดบ้าอะไร!!”
เรียวมะหันไปถามมุตสึ “นี่ มุตซัง ข้าเคยบอกใช่มั้ยว่าข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ใช่คนอื่นคนไกลน่ะ”
มุตสึ “อา ท่านพูดอย่างนั้นจริงๆ”
แล้วเรียวมะก็หันหลับไปหาฮิเซ็น “เรื่องนั้นน่ะ ข้ารู้สึกว่าเจ้าเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเช่นกันน้อ”
ฮิเซ็น “อยากพูดอะไรกันแน่…”
เรียวมะ “เจ้าชื่อฮิเซ็นงั้นรึนี่ ช่างบังเอิญเสียจริงน้อ!
ตอนที่ข้าออกจากแคว้นโทสะน่ะ ดาบที่ข้าได้มาจากพี่โอโตเมะก็ชื่อฮิเซ็นเช่นกัน
แปลกนะ ข้ามีความรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอเจ้า”
ฮิเซ็นนิ่งไป ก่อนจะเบือนหน้าหันไปอีกทาง “มันไม่เกี่ยวกับข้า…”

สึรุลุกขึ้นไปลากฮิเซ็นที่กำลังทำหน้าไม่พอใจอยู่ให้นั่งลง พร้อมกับหยิบจอกเหล้าส่งให้
บอกว่ายังไงซะคนของพรรคโทสะคินโนก็ยังคงไล่ล่าพวกเขาอยู่ ให้ดื่มอยู่ที่นี่ไปก่อน
ฮิเซ็นยังเดือด “คิดอะไรของเจ้าอยู่ห๊ะ!!”
“หรือเจ้าคิดว่าพวกเราไร้ประโยชน์น่ะ? แบบนั้นไม่ตัดสินพวกเราเร็วไปหรอกรึ” อิสึมิโนะคามิถาม
สุดท้ายฮิเซ็นก็ต้องยอม ก่อนที่เรียวมะจะร้องเพลงเพื่อเพิ่มความสนุก แล้วชวนมุตสึร้องด้วย

หลังจากงานเลี้ยงจบลง สองดาบอาวุโสก็แอบมาคุยกันลำพัง
โคการาสุมารุ “ซากาโมโตะ เรียวมะ ตามประวัติศาตร์ดั้งเดิมแล้วเขาเป็นผู้ที่ไม่อยู่ในโทสะช่วงเวลานี้”
สึรุมารุ “ดาบของซากาโมโตะ เรียวมะกับดาบของโอคาดะ อิโซงั้นรึ ดูท่าว่านายท่านจะคิดถูกแล้วนะ”
โคการาสุมารุ “พวกเราจะต้องทำคำบัญชาลับจากนายท่านให้สำเร็จลุล่วง”
สึรุมารุยิ้ม “ข้ารู้ เอาล่ะ…จะมีเรื่องประหลาดใจแบบไหนรออยู่กันนะ ข้าตั้งตารอเสียแล้ว”

——————————————————————————-

…ตัดภาพมาที่โอคาดะ อิโซ
เขายังคงทำการสังหารคนของฝ่ายตรงข้ามในฐานะสมาชิกพรรคโทสะคินโน
ก่อนจะได้พบกับทาเคจิ ฮัมเปตะ ที่มาบอกเขาว่าเรียวมะได้กลับมายังโทสะแล้ว
อิโซดีใจมากจนกระโดดโลดเต้น แต่ทาเคจิกลับถามว่าเขาว่า “จะฆ่าเรียวมะได้หรือไม่?”
อิโซได้ยินก็ช็อคไป ถามอาจารย์ของตนกลับว่าทำไมต้องฆ่าเรียวมะด้วย
ทาเคจิ “เจ้าบอกเองไม่ใช่รึ ว่าเพื่อข้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใคร เจ้าก็ฆ่าได้ทั้งนั้น”
อิโซ “แต่เรียวมะเป็นสหายของข้า เป็นสหายของท่านด้วย!!!”
แต่ทาเคจิกลับบอกว่าเรียวมะตอนนี้กลายเป็นศัตรูกับพรรคโทสะคินโนไปแล้ว
“พวกเราจะปกป้องประเทศนี้ไม่ใช่รึ? เพื่อการนั้นจึงจำเป็นต้องมีดาบของเจ้า
แต่เรียวมะกลับต้องการจะให้ยุคสมัยของดาบจบสิ้นลง ต้องโดนสวรรค์ลงทัณฑ์⁽²⁾”

คำสั่งเด็ดขาดของผู้เป็นอาจารย์เสมือนฟ้าผ่าฟาดลงกลางใจ
ทาเคจิเดินจากไป ทิ้งให้อิโซงุนงนสับสนกับชีวิตว่าตนจะต้องฆ่าเพื่อนรักจริงหรือ
แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าจะทำเพื่ออาจารย์ทาเคจิ เพราะยังไงซะเขาก็คือมือสังหาร

ช่วงเวลานั้นเอง มีดวงตามากมายนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง
…ส่งมา ส่งมา จงส่งเรื่องราวมา…

S__3268621

——————————————————————————-

กลับมาที่เหล่าโทวเคนดันชิที่กำลังต่อสู้กับกองทัพข้ามเวลาเป็นโขยงอย่างดุเดือด
ก่อนที่จะได้มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งหนึ่งในเมืองตามที่ฮิเซ็นบอกเพื่อพบกับอาจารย์นันไค

นันไค “มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิของซากาโมโตะ เรียวมะ, นันไคทาโร่ โจซนของทาเคจิ ฮัมเปตะ,
ฮิเซ็น ทาดาฮิโระของโอคาดะ อิโซ…งั้นรึ ดูเหมือนดาบที่น่าสนใจได้มารวมกันพร้อมหน้าแล้วนะ”
มุตสึเจออาจารย์นันไคก็เอ่ยทักด้วยความดีใจ ก่อนถามไปว่ารู้สึกยังไงกับร่างกายมนุษย์บ้าง
นันไค “ไม่เลวเลย เดิมทีพวกเราถูกสร้างให้มีรูปร่างลักษณะเพื่อให้มนุษย์ใช้งาน
นี่จึงถือเป็นเส้นต่อขยายออกไปจากนั้นนิดหน่อยนะ มีมนุษย์อยู่บนเส้นต่อขยายของดาบ”
มุตสึหัวเราะ “สิ่งที่จะต่อแขนมนุษย์ก็คือดาบต่างหากเล่า ท่านนี่พูดอะไรตลกดีนะ”
นันไค “ข้าแค่ตระหนักดีว่าตนเองไม่ใช่มนุษย์ก็เท่านั้น”
โคการาสุมารุ “เช่นนั้นเองหรือ นันไคทาโร่โจซนตระหนักดีถึงการที่ตนเองเป็นดาบล่ะสินะ”
“หมายความว่ายังไง” อิสึมิโนะคามิถาม
โคการาสุมารุ “ตั้งแต่ที่พวกเราได้ปรากฎกายขึ้นเพราะนายท่าน เราต่างก็ผ่านกาลเวลามาไม่น้อย
จึงอาจมีความรู้สึกรับรู้หลังจากได้ร่างกายนี้มาแรงกล้ากว่าตอนที่เราเป็นดาบก็ได้อย่างไรเล่า”
สึรุ “มีมนุษย์อยู่บนเส้นต่อขยายของดาบงั้นรึ? หรือก็คือหมายถึงพวกเราในตอนนี้ล่ะสินะ”

พอโฮริถามอาจารย์นันไคว่าจะมาต่อสู้ร่วมกับพวกเขาใช่ไหม
นันไคก็ว่าใช่แล้ว แต่ได้ร่างกายนี้มามันก็ดีอยู่หรอก เว้นเสียว่าประสบการณ์ต่อสู้ของเขายังน้อยนัก
สึรุ “อะไรกัน เริ่มแรกใครๆก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันนั่นแหล่ะ!”
ว่าแล้วก็ฟาดหลังอาจารย์นันไคไปซะเต็มแรง ก่อนจะมาเจ็บมือเสียเอง ในขณะที่คนถูกตีกลับเฉยๆ
นันไค “ข้าจะติดตามพวกเจ้า และคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังไปสักระยะ
ถึงแม้ข้าจะไร้ความแข็งแกร่ง แต่ข้าก็ยังคงมีความรู้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาบอยู่ล่ะนะ”
ทุกคนทวน “ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาบ????”
“พูดเองเออเองเลยเรอะ?” สึรุทำหน้าเหวอ
นันไค “ข้าเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์แน่ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะ แล้ว…จากนี้จะทำอย่างไรต่อล่ะ?”
ฮิเซ็น “เรารวบรวมข้อมูลได้ระดับนึงแล้ว ท่านช่วยตรวจสอบให้ที อีกอย่าง…เจ้าพวกนี้ก็ได้เรื่องกว่าที่คิด
อาจจะสามารถนำประวัติศาตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงนี้กลับไปสู่ประวัติศาตร์ดั้งเดิมได้”
นันไคยิ้ม “การปกป้องประวัติศาตร์คือสัญชาตญาณของพวกเราสินะ”

ฮิเซ็นยื่นรายงานการรบให้นันไคดู พร้อมบอกว่ายังไม่พบตัวหัวหน้าของกองทัพข้ามเวลาเลย
นันไคเลยเดาว่าตัวหัวหน้าคงซ่อนตัวหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองนี้แน่
พูดไม่ทันขาดคำ กองทัพข้ามเวลาก็ปรากฎตัวขึ้น แต่ก็ถูกสองดาบอาวุโสจัดการลงอย่างง่ายดาย
แล้วอาจารย์นันไคก็เข้าไปทำการทุบๆตอกๆชิ้นส่วนของกองทัพข้ามเวลาประกอบขึ้นใหม่เป็นกับดัก
ทุกคนยืนตะลึง ยกเว้นฮิเซ็นกับสึรุที่ท่าทางตื่นตาตื่นใจกับกับดักนั้นมาก
ตอนแรกอิสึมิโนะคามิก็ไม่ค่อยพอใจที่จะใช้กับดักในการต่อสู้กับศัตรูเท่าไหร่นัก
นันไคจึงอธิบาย “แม้จะเป็นโทวเคนดันชิ ก็ใช่ว่าจะต้องต่อสู้ด้วยดาบเท่านั้น”

แล้วอาจารย์นันไคก็เปิดฟลอร์สร้างกับดักอย่างสนุกสนาน….♪♫~♬ ♫~♬♩♪

S__3268624(ขอยาดขรรมแปร๊บ 5555555555)

อีกมุมหนึ่ง สึรุมารุจัดการกับกองทัพข้ามเวลาจนเหลือตัวสุดท้าย เขาตรงเข้าโจมตีมันทันที
แต่ทว่า…ฝีมือของกองทัพข้ามเวลาตัวนี้กลับแข็งแกร่งมาก ไม่เหมือนกองทัพข้ามเวลาทั่วไป
สึรุต่อสู้กับกองทัพข้ามเวลาตัวนั้นอย่างสูสี แต่อยู่ๆมันกลับถอยหนีไปเสียดื้อๆ

ระหว่างที่เจ้าตัวกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น นันไคกับโคการาสุมารุก็ตามมาสมทบพอดี
สึรุเกิดสงสัยขึ้นว่า ทำไมครั้งนี้พวกเขาถึงได้ถูกส่งมาช่วงเวลาหลังจากที่ประวัติศาตร์ถูกเปลี่ยนแปลง
ไปแล้วนะ ส่งพวกเขาไปปกป้องประวัติศาตร์ในช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะถูกเปลี่ยนแปลงจะไม่ดีกว่าหรือ?

นันไคจึงสันนิษฐานความเป็นไปได้ว่า อาจมีแกนเวลาที่ล้มเหลวในการปกป้องประวัติศาตร์ก็ได้…
“กาลเวลานั้นไหลเป็นเส้นตรงไปในทิศทางเดียว นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ประวัติศาตร์ที่แท้จริง’
กองทัพข้ามเวลาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โดยการแทรกแซงจุดๆหนึ่งในแกนเวลานั้น
และแน่นอนว่านั่นจะทำให้มันแตกต่างไปจากประวัติศาตร์ที่แท้จริง”
โคการาสุมารุ “หน้าที่พวกเราคือหยุดยั้งการนั้น แล้วทำให้ประวัติศาตร์ที่แท้จริงคงอยู่เช่นเดิม”
“แล้วถ้าเกิดว่าเราไม่อาจยับยั้งพวกมันได้ล่ะ…” นันไคตั้งคำถาม
สึรุ “ก็แค่ย้อนกลับไปออกรบที่จุดเดิมซ้ำๆแล้วชนะให้ได้ก็พอ ออกรบและต่อสู้ไปจนกว่าจะชนะไงล่ะ”

capture-20200221-213312
นันไค “นั่นสินะ แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับแกนเวลาอื่นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้วครั้งนึงกันนะ?
ประวัติศาตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลง…เมื่อเทียบกับประวัติศาตร์ที่แท้จริง มันเป็นสิ่งที่คลุมเครือไม่แน่นอน
หากเราปล่อยแกนเวลาที่ถูกเปลี่ยนแปลงนั้นเอาไว้ทั้งๆอย่างนั้นล่ะจะเป็นเช่นไร?
คงไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า มันจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อประวัติศาตร์ที่แท้จริง…”
สึรุ “หากเป็นเช่นนั้น…”
โคการาสุมารุ “เช่นนั้นจึงต้องถูกแยกออกจากแกนเวลาดั้งเดิม…งั้นรึ”
สึรุ “อย่างนี้นี่เอง นั่นคือโลกที่ถูกละทิ้งสินะ”
นันไค “โลกที่ถูกละทิ้งในรูปแบบเช่นนี้มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนทีเดียว
และในจำนวนนั้นก็อาจจะมีโลกที่โทวเคนดันชิถูกกองทัพข้ามเวลาทำลายลงด้วยก็ได้”
โคการาสุมารุ “ถ้าเช่นนั้น บุนคิวโทสะฮังที่ถูกเปลี่ยนแปลงแห่งนี้เองก็…”
นันไค “ใช่แล้วล่ะ แม้จะเป็นแค่เพียงการคาดเดา….
แต่ข้าคิดว่าครั้งหนึ่ง…เคยมีโทวเคนดันชิถูกส่งไปออกรบในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วพ่ายแพ้ต่อศัตรู
ซึ่งนั่นก็อาจเป็นโทวเคนดันชิของฮงมารุอื่นก็ได้… ครั้งหนึ่งพวกเขาก็ได้มาออกรบที่บุนคิวโทสะฮัง
ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องประวัติศาตร์ แล้วถูกกองทัพข้ามเวลาทำลายลง…”
สึรุ “จากการพ่ายแพ้ในครั้งนั้นเลยเป็นผลให้เกิดบุนคิวโทสะฮังที่ถูกเปลี่ยนแปลงนี่รึ?”
นันไค “ข้าเพียงแค่พูดถึงความเป็นไปได้เท่านั้น…”
โคการาสุมารุ “การต่อสู้เพื่อปกป้องประวัติศาสตร์…ดูท่าสถานการณ์รบในครานี้คงหนักหนาทีเดียวนะ”
สึรุ “เอาเถอะ พวกเราก็แค่ต่อสู้ไปตามสัญชาตญาณก็พอ ใช่มั้ยล่ะ”
นันไค “อา ใช่แล้วล่ะ”
โคการาสุมารุพึมพำ “โลกที่ถูกละทิ้ง…งั้นหรือ หากแก้ปริศนานี้ให้กระจ่างได้…ก็คง…”
พอนันไคถามว่ามีอะไร โคการาสุมารุก็ส่ายหัวยิ้มปฏิเสธ “เอาล่ะ ก่อนอื่นพวกเรามาแก้ไขวงโคจร
ของประวัติศาสตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงในแกนเวลานี้กันก่อนเถิด”

——————————————————————————-

ตัดภาพมาที่มุตสึและฮิเซ็นที่กำลังต่อสู้กับศัตรู พอกำจัดกองทัพเวลาได้หมด
ก็ได้เจอกับเรียวมะที่กำลังวิ่งหนีคนของพรรคโทสะคินโนพอดี พวกเขาจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ
ในเวลานั้นเอง โอคาดะ อิโซ ก็ได้ปรากฎตัวขึ้น เรียวมะโบกมือดีใจยกใหญ่ ในขณะที่ฮิเซ็นยืนอึ้ง

ตอนแรกอิโซทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ แต่สุดท้ายก็ตะโกนร้องเรียกเรียวมะด้วยความดีใจ
วิ่งเข้าไปโผกอดเรียวมะ พลางบ่นโวยวายเหมือนเด็กๆ ว่าเนี่ย หลังจากเจ้าออกจากแคว้นไปนะ
อาจารย์ทาเคจิก็เข้มงวดขึ้นทุกวันๆ ข้าก็ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ววว T[ ]T
คนของพรรคโทสะคินโนตวาดใส่อิโซว่าทำอะไรของเจ้าน่ะ เรียวมะเป็นศัตรูนะ!!
อิโซทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก จึงรีบบอกเรียวมะว่าให้ไปขอโทษอาจารย์ทาเคจิด้วยกัน
แล้วพวกเราจะได้กลับมาเป็นพรรคพวกเดียวกัน!!!! พร้อมทำท่าทางกระโดดโลดเต้นยกใหญ่

7ed06f69gy1gbp3lwqak1j20xh0ctapa

มุตสึเข้าไปแซวฮิเซ็น “เจ้านายเก่าของเจ้าเนี่ยเป็นคนตลกดีเนาะ”
ฮิเซ็นถอนหายใจ ยิ่งเห็นเรียวมะกับอิโซกอดคอกันกลมดิ๊กก็ได้แต่ทำท่าคอตกอย่างปลงจิต
ในขณะที่มุตสึยิ้มร่าอย่างชอบใจ “เจ้านายเก่าของพวกเราสนิทกันดีน้อ”

ระหว่างนั้น ทาเคจิ ฮัมเปตะก็ได้ปรากฎตัวขึ้น เขาถามอิโซเลยว่าเขาสั่งให้ฆ่าเรียวมะไม่ใช่รึ
อิโซบอกว่ายังไงเขาก็ฆ่าเรียวมะไม่ได้จริงๆ เพราะเขาชอบเรียวมะมาก
เรียวมะเลยหันไปบอกทาเคจิว่าเขาไม่คิดจะต่อสู้กับพรรคโทสะคินโนหรอกนะ
เพียงแต่คิดว่าแนวคิดซนโนโจอินั้นมันบุ่มบ่ามเกินไป และเขาไม่อยากให้ทาเคจิต้องตาย
โทสะน่ะเล็กนิดเดียว ไม่ใช่แค่โทสะเท่านั้น แม้กระทั่งญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่เล็กนิดเดียว
แต่โลกนี้น่ะมันกว้างใหญ่ไพศาล กว้างใหญ่เสียจนไม่อาจจินตนาการได้เลย
แล้วเรียวมะก็เอ่ยปากชวนให้ทาเคจิออกจากแคว้นเหมือนกับตน
“เรามาข้ามผืนท้องทะเลสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่ แล้วคว้าโลกนี้มาไว้ในกำมือกันเถอะ!!”

มุตสึยิ้ม “เรียวมะ…”

เรียวมะบอกอีกว่าถ้าทาเคจิที่เป็นผู้นำได้อธิบายเรื่องนี้กับพวกลูกน้อง ทุกคนต้องเข้าใจแน่
แต่ทาเคจิกลับบอกว่าคนที่เป็นผู้นำพรรคโทสะคินโนไม่ใช่เขา
ขณะนั้นเอง โยชิดะ โทโย ก็ปรากฎกายขึ้น คนของพรรคโทสะคินโนรีบคุกเข่าทำความเคารพ
ทาเคจิ “ผู้นำของพรรคโทสะคินโนคือ ท่านโยชิดะ โทโย!!”

มุตสึตกตะลึง เพราะตามประวัติศาสตร์ โยชิดะ โทโยจะต้องถูกลอบสังหารและตายไปแล้ว
“ข้าก็บอกไปแล้วนี่ ว่านี่คือโลกที่ประวัติศาตร์ถูกเปลี่ยนแปลงน่ะ!!!” ฮิเซ็นรีบอธิบาย

ทาเคจิสั่งให้อิโซฆ่าเรียวมะซะ แต่อิโซยังลังเล เขาจึงตะโกนลั่น “เจ้าเป็นดาบของข้าไม่ใช่รึ!!!”
แต่โทโยกลับสั่งว่ายังไม่ต้องฆ่าเรียวมะ เพราะจะฆ่าตอนไหนก็ย่อมได้ ตอนนี้ให้จับตัวเอาไว้ก่อน

ด้วยเหตุนั้น คนของพรรคโทสะคินโนพากันล้อมเรียวมะเอาไว้ มุตสึเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วย
ทางอิโซที่ยังคงลังเล พอได้รับคำสั่งเด็ดขาดจากผู้เป็นอาจารย์จึงจำต้องตัดสินใจโจมตีใส่เรียวมะ
อิโซซัดเรียวมะจนสลบ “ข้าขอโทษ เรียวมะ…” แล้วเรียวมะก็โดนพรรคโทสะคินโนพาตัวไป
หลังจากนั้นอิโซก็ได้หันมาเล่นงานมุตสึ เขาตวัดดาบใส่มุตสึจนมุตสึพลาดท่าเสียหลักล้มลง
ฮิเซ็นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบผละจากศัตรูตรงหน้า แล้วเข้ามาขวางทางดาบอิโซเอาไว้

ฮิเซ็น “โอคาดะ อิโซ…”
อิโซ “อะไรกัน…เจ้ามีกลิ่นคาวเลือดเหมือนข้าเลย….
กลิ่นที่ไม่ว่าจะล้างหรือทำเช่นไรก็ไม่อาจลบล้างออกได้….กลิ่นของมือสังหาร….”

ฮิเซ็นตวัดดาบอีกฝ่ายออก พอดีกับที่อิสึมิโนะคามิกับโฮริคาว่าเข้ามาสมทบ
อิสึมิโนะคามิบอกให้พวกมุตสึระวังตัวกันให้ดี เพราะคนพวกนี้ไม่ใช่แค่มนุษย์ธรรมดาๆ

หนุ่มดาบทั้งสี่พากันเข้าโจมตีใส่อิโซ แต่ก็โดนเล่นงานกันถ้วนหน้าจนแทบสู้ไม่ไหว
มุตสึจึงบอกให้ทุกคนถอยทัพ เพราะคงเอาชนะอิโซไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะเป็นคนอยู่ถ่วงเวลาให้เอง
ตอนแรกทุกคนก็ไม่ยอมถอย ยังคงพากันเข้าโจมตีใส่อิโซไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งมุตสึยื่นคำขาด “ข้าคือหัวหน้าทัพนะ เพราะงั้นช่วยไว้ใจหัวหน้าทัพหน่อยเถอะน่า!!”
ทุกคนจึงต้องยอมทำตามที่มุตสึบอกอย่างไม่มีทางเลือก
“มุตสึโนะคามิ อย่าหักไปซะล่ะ!!!!” อิสึมิโนะคามิทิ้งคำพูดไว้ก่อนรีบพาคนอื่นๆถอยทัพไป

หลังจากนั้น การดวลตัวต่อตัวของมุตสึกับอิโซก็ได้เริ่มขึ้น ทั้งสองผลัดกันรุกผลัดกันรับ
แต่ผลสุดท้าย มุตสึเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ในขณะที่อิโซเงื้องดาบขึ้นนั้น…
โทโยได้ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับทาเคจิ เขาตะโกนสั่งให้อิโซหยุดลงมือ

โทโยชี้มาที่มุตสึ “ข้านึกออกแล้ว พวกเจ้าคือโทวเคนดันชิ!!!!”
สิ่งที่ได้ยินทำให้มุตสึอึ้งไป ถามกลับว่าทำไมถึงรู้เรื่องนั้นได้
โทโยหัวเราะ “ข้าเคยสู้กับพวกเจ้ามาก่อน เจ้าพวกดาบที่ข้าได้เคยหักทิ้งไปอย่างไรเล่า!!!”
“อะไรนะ!?!” มุตสึตกตะลึงยิ่งขึ้น
ทาเคจิ “ใช่แล้ว ข้านึกออกแล้ว…เจ้าคือมุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ ดาบของซากาโมโตะ เรียวมะ!!!”
โทโย “พวกเจ้าที่ปกป้องประวัติศาตร์ คิดว่าจนป่านนี้แล้วจะสามารถทำอะไรกับประวัติศาตร์
หลังจากที่มันถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้วได้รึ!!! ช่างน่าผิดหวังจริงๆ พวกเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้!!!”
ทาเคจิสั่งให้อิโซลงมือ อิโซเงื้องดาบขึ้นสูงอีกครั้ง…

…ทุกอย่างดับมืดลง…
กองทัพข้ามเวลาปริศนาตนนึงปรากฎกายขึ้นท่ามกลางดวงตามากมายที่รายล้อมรอบตัว
“ส่งเรื่องราวมา… มากกว่านี้ มากกว่านี้…”
มือหนึ่งค่อยๆถอดหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เหมือนยามัมบะกิริ คุนิฮิโระไม่ผิดเพี้ยน
ร่างนั้นค่อยๆหันหลังกลับ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด…

S__3276808

——————————————————————————-

พวกอิสึมิโนะคามิกลับมาสมทบกับพวกสึรุที่โรงเตี๊ยม พร้อมเล่าสถานการณ์ให้ฟัง
โฮริเล่าว่าฝีมือของพรรคโทสะคินโนนั้นแข็งแกร่งเกินมนุษย์ไปมาก
ถ้ามุตสึโนะคามิไม่เปิดทางให้พวกตนหนีออกมาล่ะก็ คงโดนทำลายกันหมดแล้ว
“โธ่เว้ย!!” อิสึมิโนะคามิสบถออกมาอย่างเจ็บใจ  “ทำไมข้าถึงได้หนีออกมากัน!!”
สึรุ “เอาน่า การถอยทัพไม่ใช่เรื่องที่น่าเจ็บใจหรอก แล้วมันก็ถือเป็นกลยุทธ์อย่างนึงนะ”
อิสึมิโนะคามิ “ถ้าเอาแต่หนีแล้วมันจะไปชนะได้ยังไง!?”
สึรุ “ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราแพ้แล้วเสียหน่อย”
พอโคการาสึมารุถามถึงมุตสึ โฮริก็บอกว่าถูกคนของพรรคโทสะคินโนจับตัวไป
ตอนนี้คงถูกขังอยู่ในคฤหาสน์ของโยชิดะ โทโยพร้อมกับเรียวมะ
อิสึมิโนะคามิรีบร้อนจะไปช่วย แต่ฮิเซ็นตะโกนห้ามบอกว่าไม่ได้ พวกเรามีภารกิจที่จะต้องทำอยู่
อิสึมิโนะคามิจ้องหน้าฮิเซ็น “คิดจะปล่อยให้เจ้านั่นตายไปโดยไม่ช่วยงั้นรึ!!”
“พวกเราคือโทวเคนดันชิ!!!” ฮิเซ็นตวาดลั่น “ไม่ได้มีร่างกายนี้เพื่อมาเล่นเป็นเพื่อนที่ดีกันนะ!!”

อิสึมิโนะคามิเงียบไปอึดใจก่อนตะโกนลั่น “ข้อหนึ่ง!!!!! อย่าทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎของซามูไร!!!!”
ก่อนจะบอกว่าการทอดทิ้งมุตสึโนะคามิเอาไว้แบบนั้น มันถือเป็นการผิดกฎซามูไรของตัวเอง
“อดีตดาบของฮิจิคาตะจะไปช่วยอดีตดาบของเรียวมะงั้นเรอะ ตลกร้ายเสียจริงนะ” ฮิเซ็นหัวเราะ
อิสึมิโนะคามิกระตุกยิ้ม “เท่ใช่มั้ยล่ะ? แข็งแกร่ง แถมยังเท่อีก แฟนคลับข้าจะเพิ่มขึ้นมั้ยนะ?”
ฮิเซ็น “นี่เจ้าล้อกันเล่นอยู่ใช่มั้ยห๊า!!!!”
พอทั้งคู่เริ่มทะเลาะกัน โฮริก็ว่าให้ทั้งสองคนสนิทกันไว้เถอะ แต่ก็โดนสวนกลับว่าใครมันจะไปทำได้!!
“หยุดเลยๆ โทวเคนดันชิ เลิกทะเลาะกันแล้วมาปกป้องประวัติศาตร์กันเถอะ!”
สึรุเอ่ยปากห้ามมวย ก่อนจะเสนอว่าให้แบ่งทัพออกเป็นสองทีม ซึ่งอาจารย์นันไคก็พยักหน้าเห็นด้วย
เพราะบางทีหัวหน้าของพวกกองทัพข้ามเวลาอาจจะเป็นโยชิดะ โทโยก็ได้
ดังนั้นการไปหาเบาะแสที่คฤหาสน์ของโยชิดะ โทโยที่มุตสึถูกจับตัวไปก็ถือว่าอยู่ในภารกิจ
ฮิเซ็นได้ฟังก็เถียงไม่ออก อิสึมิโนะคามิ โฮริ โคการาสุมารุเลยอาสาจะไปจัดการกับทางโทโย
ส่วนอาจารย์นันไคจะจัดการด้านวางกับดักต่อ สึรุที่อยากเห็นตอนกับดักระเบิดก็ได้ขอตามไปด้วย
ฮิเซ็นเดินเข้าไปหาอาจารย์นันไค “แค่ข้ากับสึรุมารุคงไม่อาจปกป้องอาจารย์ได้อย่างเต็มที่
เพราะงั้นการที่ท่านแค่สนับสนุนอยู่ข้างหลังน่ะ มันไม่ปลอดภัยพอหรอกนะ…”
นันไคยิ้มอย่างเข้าใจ แล้วทั้งสองทีมก็แยกย้ายไปทำภารกิจของตน

——————————————————————————-

ตัดมาที่มุตสึและเรียวมะที่ถูกจับมัดอยู่ที่คฤหาสถ์ของโยชิดะ โทโย
โทโยเห็นมุตสึมองมาที่ตนก็ว่า “มองข้าด้วยสายตาราวกับเห็นวิญญาณอย่างนั้นเชียว…
ก็คงเช่นนั้นล่ะนะ เพราะตามประวัติศาตร์ที่เจ้ารู้ ข้าได้ตายลงไปแล้วนี่นะ”
มุตสึ “พูดอะไรของท่าน…”
โทโย “มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ ข้าเคยพบกับเจ้า เจ้าคือโทวเคนดันชิ ดาบที่ปกป้องประวัติศาตร์!!”
“โทวเคนดันชิ?” เรียวมะเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
โทโยบอกอีกว่าพวกมุตสึมาที่นี่ก็เพื่อสังหารเขา เพื่อให้มันเป็นไปตามประวัติศาตร์ที่แท้จริง
มุตสึอึ้งไป แต่ก็ตอบความจริงกลับไปว่าเขาเพิ่งเคยเจอกับพวกโทโยเป็นครั้งแรก
โทโย “งั้นรึ ถ้าเช่นนั้น มุตสึโนะคามิที่เคยมาที่นี่เพื่อสังหารข้าอาจจะเป็นเจ้าอีกคนนึงก็ได้สินะ”
มุตสึ “เจ้าเป็นใครกันแน่!!!”
โทโยตอบ “ข้าคือโยชิดะ โทโยไงเล่า” แล้วทำท่าเหมือนไม่แน่ใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหามุตสึ
“เจ้าเห็นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ เห็นข้าเป็นโยชิดะ โทโยตัวจริงรึเปล่า??” มุตสึเลยยิ่งงงเข้าไปใหญ่
โทโยบอกประมาณว่า ในหัวของเขามันเลือนราง และในความเลือนรางนั้นมันมีแต่ความปรารถนา
นั่นคือความปรารถนาที่จะปกป้องประเทศญี่ปุ่นให้รอดพ้นจากการคุกคามของต่างชาติ
โทสะแห่งนี้เป็นดินแดนที่ยามาอุจิ คาซึโตะได้รับมาจากโทคุกาวะ อิเอยาสึ
ดังนั้นการเป็นปฏิปักษ์ต่อต้านโทคุกาวะที่มีบุญคุณใหญ่หลวงจึงถือเป็นการกระทำที่หยาบช้า
แต่ว่ารัฐบาลบาฟุคุในตอนนี้ก็ไม่มีกำลังพอที่จะต่อต้านพลังของต่างชาติที่มีมากกว่า
ดังนั้นเขาจึงต้องเลือกระหว่างตอบแทนบุญคุณ 264 ปีของโทคุกาวะ กับอนาคตของประเทศนี้
แล้วในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะ สรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่
มุตสึยิ่งได้ฟังก็ยิ่งง “นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด…”
โทโยบอกอีกว่า หากเขาคือโยชิดะ โทโย เขาต้องไม่สนใจแนวคิดซนโนโจอิไปแล้ว
แต่นี่เขากลับเห็นด้วยกับข้อเสนอของทาเคจิ…

เรียวมะหันกลับไปแย้งทาเคจิว่าสิ่งที่จะช่วยญี่ปุ่นได้มันไม่ใช่แนวคิดซนโนโจอิ
แต่ทาเคจิไม่ฟัง เขาตะคอกใส่เรียวมะ “เจ้าคิดว่าประเทศญี่ปุ่นในยามนี้มันเป็นเช่นนี้ดีแล้วหรือ
เจ้าคิดจะส่งต่อประเทศเช่นนี้ต่อไปให้ลูกหลานเจ้างั้นหรือ ตัวข้าทำแบบนั้นไม่ได้!!”
โทโยพูดต่อว่าเขาเลิกเป็นซามูไร และได้กลายมาเป็น “นักรบผู้อุทิศตนเพื่อชาติ” แล้ว
และโทวเคนดันชิก็ได้เคยปรากฎกายขึ้นที่นี่เพื่อมาสังหารเขาให้ตายลงตามประวัติศาตร์
แต่⁽³⁾โทวเคนดันชิเหล่านั้นพ่ายแพ้ และถูกพวกเขาหักดาบจนแตกสลายไปในที่สุด

S__3252232

มุตสึก็บอกว่าไม่จริง มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางต่อสู้ชนะโทวเคนดันชิได้
โทโยย้อนกลับว่า แล้วทำไมข้าถึงยังมีชีวิตอยู่เล่า ทำไมพวกนั้นถึงเอาชนะพรรคโทสะคินโนไม่ได้

ทาเคจิชักดาบขึ้นหวังจะสังหารเรียวมะ เพราะถือเป็นศัตรูที่ขัดขวางแนวคิดของตน
แต่ก็ถูกโทโยห้ามไว้ บอกว่าฆ่าเรียวมะที่นี่ไปมันน่าเสียดาย เพราะเรียวมะเป็นชายที่มองการณ์ไกล
ดังนั้นญี่ปุ่นสมัยใหม่อาจจำเป็นต้องมีชายอย่างเรียวมะ ก่อนจะหันกลับมาชักดาบจ่อไปที่คอของมุตสึ
“มุตสึโนะคามิ ข้าจะใช้เจ้าเป็นตัวล่อ…. พวกโทวเคนดันชิคนอื่นๆจะต้องตามมาช่วยเจ้าแน่
ไม่ว่าจะกี่หน ข้าก็จะหักพวกเจ้าทิ้งซะ และหลังจากหักเพื่อนๆของเจ้าแล้ว ข้าก็จะหักเจ้าทิ้งเสีย”

ทั้งสามคนเดินออกไป ในขณะที่มุตสึเกิดคำถามขึ้นมากมายในหัว
“โทโยรู้เรื่องพวกเรา… จะว่าไปก่อนหน้านี้ก็ได้ยินมาว่า คุโรดะ คันเบย์ก็รู้เรื่องของโทวเคนดันชิ…”
“มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ…ดาบสมบัติประจำตระกูลซากาโมโตะ” เรียวมะเอ่ยขึ้น
มุตสึ “เอ๋?”
เรียวมะ “มุตซัง เจ้าคือดาบงั้นรึ? โทวเคนดันชิที่โทโยพูดถึงคือเจ้างั้นรึ?
เจ้าคือมุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ ดาบที่ข้าอยากได้มากจนแทบอดใจไม่ไหวเล่มนั้นรึ!?!”
มุตสึอ้ำอึ้ง แต่ไม่กี่อึดใจก็แกล้งหัวเราะร่าออกมา บอกว่ามันจะแบบนั้นเป็นไปได้ยังไงเล่า
ถ้าเขาเป็นดาบจริงๆ แล้วทำไมถึงมีร่างกายมนุษย์อย่างนี้ล่ะ เรียวมะก็ว่า เออ จริงด้วยสินะ
แล้วทั้งสองก็หาทางทำให้เชือกที่มัดไว้หลุด แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด
เรียวมะเลยแกล้งๆพูดว่า ถ้ามุตซังเป็นดาบคงฟันเชือกให้หลุดไปได้แล้วนะเนี่ย
มุตสึ “งั้นลองดูไหมล่ะ?” ว่าแล้วก็เอาหัวตัวเองทำท่าเป็นดาบจะฟันเชือกให้เรียวมะ
ก่อนจะยอมแพ้ว่าทำไม่ได้ เรียวมะ “ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว!!”

ขณะนั้นเอง… กองทัพข้ามเวลาปริศนาตนนึงได้ปรากฎกายขึ้น
มันเข้ามาฟันเชือกที่พันธนาการทั้งสองคนไว้ให้หลุดออก พร้อมกับโยนดาบให้
“ส่งเรื่องราวมา เรื่องราวของซากาโมโตะ เรียวมะ…” แล้วหนีหายไป
แม้มุตสึจะยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรศัตรูถึงได้มาช่วยเขาไว้ แต่ก็รีบไปหยิบดาบตนเองขึ้นมา
ก่อนจะพาเรียวมะหลบหนีออกจากคฤหาสน์ของโทโย

——————————————————————————-

ตัดมาที่อิสึมิโนะคามิ โฮริคาว่า และโคการาสุมารุ
ระหว่างที่พวกเขาถูกกองทัพข้ามเวลาขัดขวางไม่ให้ไปที่คฤหาสน์ของโทโย
ก็ได้เจอกับอิโซที่พุ่งเข้ามาโจมตีใส่พวกเขา การต่อสู้เป็นไปอย่างเสียเปรียบ
แต่หลังจากที่โคการาสุมารุได้ประดาบกับอิโซ เขาก็บอกให้ทุกคนหนีก่อน
อิสึมิโนะคามิ “พูดอะไรน่ะ จะทิ้งมุตสึโนะคามิงั้นรึ!!”
โคการาสุมารุ “พ่อคนนี้มีความคิดอะไรบางอย่าง…ตามมาเถิด”
พอโฮริถามว่าทำไมก็ได้คำตอบแค่ว่า “หากการคาดเดาของพ่อคนนี้ถูกต้องล่ะก็…นั่นไม่ใช่มนุษย์”
พูดจบโคการาสุมารุก็วิ่งนำไปให้ทั้งสองคนวิ่งตาม

ในตอนนั้นโฮริสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติบางอย่างอีกครั้ง
“อีกแล้ว รู้สึกไม่ดีเลย เมืองนี้มันมีอะไรแปลกๆจริงๆด้วย ราวกับว่า…เมืองนี้มีชีวิตเลย!!”

——————————————————————————-

ทางด้านอาจารย์นันไคที่กำลังง่วนกับการสร้างกับดักอยู่กับฮิเซ็นก็เหมือนจะไปได้สวย
สึรุหอบซากของกองทัพข้ามเวลากองใหญ่เข้ามาอย่างทุลักทุเล แต่ก็เสียแรงเปล่า
เพราะกับดักมีเยอะมากพอแล้ว เจ้าตัวเลยทำหน้าเซ็ง บอกว่าอุตส่าห์แบกมาอย่างหนักเลยเนี่ย

S__3268631
พออาจารย์นันไคบอกให้เอาไปทิ้ง เจ้าตัวก็ว่า “เดี๋ยวนะ มีตัวที่ยังไม่ตาย มันพูดอะไรบางอย่างด้วย”
ว่าแล้วก็ทำท่าเงี่ยหูฟัง ก่อนแสร้งดัดเสียงแหลมเฟี้ยว “สวัสดี นันไคทาโร่ โจซน!!”
นันไค “(อึ้งไปสักพัก) ………สวัสดี”
(สึรุ) “ฮิเซ็นๆๆๆๆ”
ฮิเซ็น “มีอะไร!!!”
(สึรุ) “วันนี้ข้ามีสองเรื่องอยากจะปรึกษาฮิเซ็นน่ะ ช่วยฟังหน่อยได้ไหม?”
ฮิเซ็น “ไม่ฟัง!!!”
นันไคยิ้มๆ “ฮิเซ็น…ฟังเขาเถอะ”
(สึรุ) “ข้อแรก สภาพของข้าเป็นแบบนี้แล้ว พอจะมีประกันที่ไหนรับทำบ้างอ่ะ?”
ฮิเซ็น “ไม่มีเว้ย!!!!!!!!!”
(สึรุ) “ข้อสอง ตอนที่แยกกับคนที่ไม่ชอบหน้า แล้วก็อุตส่าห์บอกลาไปแล้ว
แต่ดันไปเจอกันระหว่างทางกลับบ้านอีก รู้สึกไม่ชอบเลย จะทำยังไงดีเหรอ?”
ฮิเซ็น “…..ทักไปว่า ไปทางเดียวกันเลยเนอะะะ ก็ได้ไม่ใช่เรอะ”
(สึรุ) “โห เป็นประโยชน์มากเลย ขอบคุณนะ ไปล่ะ!!”
แล้วสึรุก็แบกซากของกองทัพข้ามเวลาออกไป ส่วนฮิเซ็นทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจเต็มประดา
แต่ไม่ถึงห้าวิสึรุก็แบกซากของกองทัพข้ามเวลากลับเข้ามาอีก “ไปทางเดียวกันเลยเนอะะะะะ”
ฮิเซ็นตวาดลั่น “รีบๆเอามันไปทิ้งซะ!!!!!!!!💢💢”

กลับเข้ามาที่เรื่อง…
ฮิเซ็นถามขึ้นว่าหัวหน้าของกองทัพข้ามเวลาจะใช่โยชิดะ โทโยจริงหรือ
อาจารย์นันไคก็ว่าถ้าเป็นโยชิดะ โทโยอย่างที่คิดก็คงดีล่ะนะ
ขณะนั้นเอง พวกโคการาสุมารุก็ได้วิ่งเข้ามา ฮิเซ็นตกใจ “พวกเจ้าควรไปที่คฤหาสน์ไม่ใช่เรอะ!!”
แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบ อิโซก็วิ่งไล่ตามมาถึง ก่อนจะเข้าโจมตีใส่พวกเขา
โฮริ “ระวังด้วยนะครับ โอคาดะ อิโซคนนี้ไม่ใช่แค่มนุษย์ธรรมดา!!”

จังหวะนั้นเอง กับดักที่พวกเขาสร้างเอาไว้ก็มีปฎิกิริยา มันส่องแสงสีแดงกระพริบไม่หยุด
นันไคยิ้มกริ่มก่อนรีบโยนกับดักไปที่อิโซ ทันใดนั้นกับดักก็เกิดระเบิดขึ้น ส่งเสียงเลือนลั่นไปทั่ว
ฮิเซ็น “เกิดอะไรขึ้น!!”
นันไค “ดูเหมือนกับดักของข้าจะทำงานแล้วล่ะนะ”
“โห นี่สินะที่เขาเรียกว่ากับระเบิด!!!” สึรุโดดหยองๆด้วยความตื่นเต้น
โฮริ “ทำไมล่ะครับ? กับดักจะมีปฏิกิริยากับกองทัพข้ามเวลาเท่านั้นนี่นา”
โคการาสุมารุ “ดูท่าการคาดเดาของพ่อคนนี้จะไม่ผิดแล้วล่ะนะ”

อิโซปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง ทว่ารูปร่างหน้าตาของเขาในตอนนี้ผิดแผกไปจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
เขาร้องคำรามลั่นจนสะเทือนไปทั่วแผ่นฟ้า ก่อนจะกระโดดเข้าจู่โจมเหล่าโทวเคนดันชิ
ในระหว่างต่อสู้ อิโซได้ระบายความในใจออกมา “ข้าเกิดมาในครอบครัวของนักรบที่ยากจน…
ดังนั้น ในโทสะที่มีการแบ่งแยกชนชั้นเจ้านายชั้นสูงและซามูไรชั้นล่างอย่างชัดเจนแห่งนี้
ข้าจึงเป็นเหมือนเพียงสัตว์ชั้นต่ำ!!! คนที่ไร้การศึกษาอย่างข้ามีแค่เพียงดาบเท่านั้น…
แต่ต่อให้ข้าจะกวัดแกว่งดาบเก่งกาจสักเพียงไหน ก็ไม่อาจกลบชนชั้นที่แตกต่างได้!!!!
แล้วอาจารย์ทาเคจิก็ได้มอบความหมายให้แก่ดาบของข้า…
ความหมายที่ว่า ‘⁽²⁾การลงทัณฑ์แทนสวรรค์’ อย่างไรเล่า!!
การลงทัณฑ์แทนสวรรค์คือความหมายของการมีชีวิตอยู่ของข้า
เพื่อลงทัณฑ์แทนสวรรค์…ข้าจึงไล่ฆ่าคน ฆ่าคน ฆ่าคนไปเรื่อยๆ
ผู้คนต่างเรียกข้าว่า มือสังหารอิโซ… ข้าไม่ได้ชอบเป็นมือสังหารสักหน่อย!!!!
แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็จะสังหารผู้คน…เพื่อเบิกทางประเทศนี้ไปสู่ยุคสมัยใหม่!!”

เหล่าโทวเคนดันชิสู้กับอิโซอย่างตึงมือ แม้จะมีถึง 6 คนแต่ก็ไม่อาจล้มอิโซได้ง่ายๆ
ฮิเซ็นฮึดยืนขึ้น กระชับดาบในมือแน่น “อา ข้าคือดาบสังหารมนุษย์ ข้าเข้าใจมันดี!!!!!”
อิโซจ้องมองยังฮิเซ็น “เจ้าเองงั้นรึ คนที่มีกลิ่นของมือสังหารเช่นเดียวกับข้า…”
พูดจบอิโซก็ฟาดดาบเข้าใส่ฮิเซ็น ทั้งสองประดาบกันไปมา แต่ฮิเซ็นเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
โคการาสุมารุเข้ามาช่วยขวางทางดาบไว้ พร้อมกับที่ดาบทุกเล่มพากันโจมตีเข้าใส่อิโซอีกครั้ง
ก่อนที่สุดท้ายฮิเซ็นจะเป็นฝ่ายซัดหมัดใส่อิโซจนอีกฝ่ายล้มลงในที่สุด

ฮิเซ็นร้องลั่นก่อนยกดาบขึ้นสูง…

“ไม่เอา…ข้ายังไม่อยากตาย!!!!!!!!!!!” อิโซตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฮิเซ็นชะงักมือ
“ข้ายังไม่ได้เห็นยุคสมัยใหม่เลย โลกที่ข้า เรียวมะกับอาจารย์ทาเคจิจะสร้างขึ้น
โลกที่ไม่มีชนชั้นสูงหรือชนชั้นล่าง โลกที่ทุกคนจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ…โลกที่เท่าเทียม!!!”
อิโซน้ำตานองหน้า “แต่ว่า…หากข้าตายลงซะตอนนี้ก็คงไม่ต้องฆ่าคนอีกแล้วสินะ
หากไม่ต้องฆ่าคนแล้ว เป็นแบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้….”

ฮิเซ็นกำดาบแน่น น้ำตาเอ่อรื้นคลอดวงตาที่ฉายแววเจ็บปวด
“ไม่ได้อยากฆ่าสักหน่อย…ไม่ได้อยากฆ่าสักหน่อย!!! คงไม่มีใครหน้าไหนเชื่อสินะ!!
………แต่ถ้าเจ้าพูดแบบนั้นล่ะก็…ข้า….”
อิโซเงยหน้ามองฮิเซ็น “เจ้าน่ะ…เหมือนกับข้าจริงๆด้วย…” ก่อนจะสลบไป
อาจารย์นันไคเดินเข้าไปแตะบ่าฮิเซ็น ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

S__3276824
ทุกคนตัดสินใจพาร่างของอิโซไปยังที่พัก

——————————————————————————-

ด้านมุตสึกับเรียวมะที่กำลังหนีการไล่ล่าของพรรคโทสะคินโน
ก็ได้พบกับกองทัพข้ามเวลาปริศนาตัวนั้นมาช่วยพวกเขาไว้อีกครั้ง

——————————————————————————-

กลับมาที่ที่พักของเหล่าโทวเคนดันชิ
อิสึมิโนะคามิและโฮริคาว่ากลับมาจากการสอดแนมก็รายงานว่าที่คฤหาสถ์โทโยกำลังวุ่นวาย
โฮริทำสีหน้ากังวล “มุตสึโนะคามิซังจะเป็นอะไรมั้ยนะ?”
สึรุ “อะไรกัน ตอนนี้เราแค่ทำในสิ่งที่ทำได้ก็พอ”
โฮริ “สิ่งที่ทำได้..เหรอครับ?”
สึรุ “การเชื่อใจเพื่อนพ้องยังไงล่ะ ถ้าเป็นมุตสึโนะคามิล่ะก็ต้องไม่เป็นไรแน่”

หลังจากได้ตรวจสอบร่างกายของอิโซ นันไคก็สรุปว่าอิโซผู้นี้เหมือนมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์
จะให้บอกว่าเป็นของปลอมก็ว่าได้ อีกทั้งร่างกายเขาก็มีส่วนประกอบคล้ายกับกองทัพข้ามเวลาด้วย
แต่ถ้าจะให้บอกว่าเป็นอะไรแน่นั้น ก็คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงกับโทวเคนดันชิอย่างพวกเขา
อิโซอาจจะถือกำเนิดขึ้นจากพลังในการกำเนิด เขาเป็นโทวเคนดันชิที่ไม่สมบูรณ์…
ไม่สิ เป็นพวก⁽⁴⁾ภูติผีวิญญาณอะไรพวกนั้นล่ะมั้ง
สึรุ “เพราะงั้นก็เลยมีฝีมือทัดเทียมกับพวกเรางั้นสินะ”
นันไคอธิบายอีกว่า “พวกเราที่เป็นโทวเคนดันชินั้นถือกำเนิดจากความรู้สึกที่ถูกใส่ลงไปในสิ่งของ
โดยความรู้สึกนั้นมีทั้งความรู้สึกที่มีรากฐานมาจากเรื่องจริง หรือเกิดจากเรื่องราวที่ไม่มีอยู่จริงก็ได้
อย่างเช่น อิสึมิโนะคามิกับโฮริคาว่าคุง พวกเจ้าทั้งสองเองก็มีเรื่องราวของเจ้านายเก่าเป็นรากฐาน
ส่วนสึรุมารุ คุนินากะที่ยากจะเข้าใจ นั่นก็คงเป็นเพราะเปลี่ยนมือเจ้านายมามาก
ตัวข้า…แม้จะไม่ได้มีรากฐานมาจากเจ้านายเก่า แต่ก็ได้รากฐานมาจากนายช่างที่ตีข้าขึ้นมา
หรืออย่างฮิเซ็น หากเรียวมะไม่ได้มอบเจ้าให้กับอิโซ เจ้าก็อาจจะต่างไปจากตอนนี้ก็เป็นได้
และบางทีอิโซตัวปลอมนี่ก็อาจเป็นตัวตนที่มีรากฐานมาจากโอคาดะ อิโซตัวจริง…”

คุยๆกันไปก็มีแต่เรื่องที่ยังไม่เข้าใจ แต่ในขณะที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
มุตสึกับเรียวมะก็โผล่เข้ามากลางวง โฮริวิ่งเข้าไปกระโดดกอดมุตสึด้วยความดีใจ
อิสึมิโนะคามิเองก็แอบโล่งอกแต่ปากก็ว่า “เจ้าเป็นหัวหน้าทัพไม่ใช่รึ ช่วยทำหน้าที่ให้มันดีๆหน่อย!”
เรียวมะเห็นอิโซที่นอนอยู่ก็ตกใจถามว่าตายแล้วหรือ? สึรุเลยบอกว่าเขาแค่สลบไปเท่านั้น
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มคุยสถานการณ์ที่ตนเองไปเจอกันมา
ก่อนที่โคการาสุมารุจะสรุปขึ้นว่า ทาเคจิและโทโยอาจจะเป็นเหมือนกับอิโซก็ได้
อิสึมิโนะคามิ “ไม่ใช่แค่พวกโทโยเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนของพรรคโทสะคินโนด้วย”
นันไค “ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่กองทัพข้ามเวลา แต่เป็นภูตผีวิญญาณที่ไม่อาจกลายเป็นโทวเคนดันชิได้
พวกเขาที่มีตัวตนคลุมเครือไม่แน่ชัด คงเรียกได้ว่าเป็น ⁽⁵⁾เหล่านักรบผู้คลุมเครือ สินะ”

แล้วโฮริก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
บอกว่าตัวเองรู้สึกคาใจตั้งแต่มาที่นี่แล้ว เขารู้สึกว่าถูกใครบางคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
เหมือนกับว่าเมืองนี้มันมีชีวิต แล้วก็กำลังจับตามองพวกตนอยู่เลย

จังหวะนั้นอิโซฟื้นขึ้นมาพอดี พอเห็นเรียวมะก็ดีใจ ก่อนจะรีบถามหาดาบของตนเอง
แล้วบอกให้ส่งดาบคืนให้เขา แต่อิสึมิโนะคามิบอกว่าคิดเหรอว่าบอกให้คืนแล้วจะคืนให้น่ะ
นันไคหัวเราะ “ตลกจริงๆนะ ที่อิโซผู้นี้เชื่อเป็นตุเป็นตะว่าตนเองคือโอคาดะ อิโซตัวจริง
บางทีพวกโทโย ทาเคจิ กับคนของพรรคโทสะคินโนก็คงเชื่อว่าตนเองคือตัวจริงเช่นกัน
แล้วพวกตัวจริงไปไหนเสียล่ะ แอบซ่อนตัวอยู่ในเมืองนี้…หรือไม่มีตัวตนจริงอยู่กันแน่นะ”
“หมายความว่ายังไง?” อิสึมิโนะคามิถาม
นันไค “รู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘ทฤษฎีทางประวัติศาตร์’ กันสินะ”
โคการาสุมารุ “อา เช่น มินาโมโตะ โยชิสึเนะ อาจจะยังมีชีวิตอยู่ และกลายเป็นเจงกิสข่านก็ได้”
สึรุ “หรือเช่นทฤษฎีที่ว่า โอดะ โนบุนากะอาจจะมีชีวิตรอดไปจากเหตุการณ์ฮอนโนจิก็ได้”
นันไค “อิสึมิโนะคามิคุง โฮริคาว่าคุง…ฮิจิคาตะ โทชิโซผู้เป็นเจ้านายเก่าของพวกเธอเอง
ก็มีทฤษฎีที่ว่าเขาอาจจะมีชีวิตรอดจากสงครามโบชินอยู่เช่นกัน”
อิสึมิโนะคามิได้ยินแบบนั้นก็ไม่สบอารมณ์ “อย่ามาพูดบ้าๆ”
สึรุ “เรากำลังพูดถึงเรื่องที่ว่า ‘มันอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้’ ต่างหาก”
นันไค “ใช่แล้วล่ะ ความปรารถนาที่ว่า ‘อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้’ นั้น ทำให้ประวัติศาตร์สั่นคลอน
และที่นี่ก็อาจจะเป็นบุนคิวโทสะฮังที่เกิดจากความปรารถนาอย่างที่ว่าก็ได้นะ”
สึรุได้ยินดังนั้นก็หัวเราะชอบใจว่าน่าสนุกดีนี่นา ข้ารอที่จะได้พบความประหลาดใจแล้ว

อิโซที่นิ่งฟังมานานร้องโวยวายไม่เข้าใจว่า พวกเจ้าคุยอะไรกันตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว
เรียวมะก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมุตสึกำลังต่อสู้เพื่ออะไรอยู่ แต่เขาเองก็มีสิ่งที่ต้องทำ
นั่นคือจะไม่ปล่อยให้ทาเคจิตาย เรียวมะจึงขอร่วมวงไปสู้ด้วยคน แถมยังชวนอิโซมาช่วยอีกแรง
ตอนแรกอิโซก็ไม่ยอม เรียวมะจึงก้มหัวขอร้อง ส่วนอิสึมิโนะคามิคัดค้านไม่เห็นด้วย
มุตสึเลยบอกให้อิสึมิโนะคามิใจเย็นๆ ก่อนที่เขาจะเข้าไปช่วยเรียวมะขอร้องให้อิโซมาช่วยด้วย
โดยบอกว่าให้มาช่วยเป็นบอดี้การ์ดให้หน่อย พูดจบก็ก้มหัวขอร้องอยู่ข้างๆเรียวมะ
อิโซเห็นท่าทางของทั้งสองเหมือนกันก็เอ่ยว่า “เหมือนมีเรียวมะสองคนเลย…”
จนในที่สุดก็ยอมตกลงเป็นบอดี้การ์ดให้

ในตอนนั้นเอง…
เรียวมะได้หยิบดาบที่ตนพกมายื่นมอบให้กับอิโซ บอกว่าให้ดาบนี้อยู่ที่อิโซน่าจะดีกว่า
อิโซรับดาบมาไว้ในมืออย่างซาบซึ้ง “ข้าจะใช้ดาบนี่อย่างดี”

S__3276829
ฮิเซ็นยืนนิ่ง เฝ้ามองภาพที่เรียวมะมอบดาบให้กับอิโซไม่ละสายตา
แต่พอสึรุเข้าไปเกาะคอเอ่ยแซวว่า “ได้เห็นฉากสำคัญเลยเนอะ” ก็รีบสะบัดมืออีกฝ่ายออก
ก่อนจะบอกให้รีบๆไปกันได้แล้ว

ดาบอาวุโสสองคนหยุดคุยกัน
โคการาสุมารุ “กลายเป็นเรื่องน่าสนใจมากเสียทีเดียวนะ
ทั้งเหล่านักรบที่คลุมเครือ และบุนคิวโทสะที่คลุมเครือ…ทุกสิ่งที่นี่ล้วนเป็น….⁽⁶⁾หุ่นกระดาษ”
สึรุ “อา การให้มุตสึโนะคามิ กับ เรียวมะมาเจอกันที่นี่ ถือเป็นจังหวะเหมาะทีเดียว
พวกเรามาทำคำสั่งลับที่ได้รับจากนายท่านให้สำเร็จลุล่วงกันเถอะ”

——————————————————————————-

พวกมุตสึพากันมุ่งไปที่คฤหาสถ์ของโยชิดะ โทโย
แต่ในเมืองเต็มไปด้วยคนของพรรคโทสะคินโนที่กำลังตามไล่ล่าพวกเขา
โฮริกังวลว่าถ้าปะทะกันต้องลำบากแน่ เพราะคนพวกนั้นแข็งแกร่งไม่แพ้กองทัพข้ามเวลาเลย
อาจารย์นันไคเห็นแบบนั้นจึงหยิบรีโมทขึ้นมา บอกว่ามันคือรีโมทใช้จุดระเบิดแบบโจซนสไตล์
ซึ่งเขาได้ปรับเปลี่ยนมันนิดหน่อย และถ้าการคาดเดาของเขาถูกต้อง มันจะต้องได้ผลแน่
และก็เป็นอย่างที่นันไคคาดเดา เพราะทันทีที่เขากดปุ่ม ระเบิดจากกับดักราว 3-4 ลูกก็ระเบิดขึ้น
ทุกคนจึงรีบฉวยโอกาสนี้มุ่งหน้าไปที่คฤหาสถ์ของโทโย

แต่ทว่าวิ่งไปได้สักพัก…คฤหาสถ์ของโทโยก็ราวกับว่าหายไปจากตรงหน้า
อีกทั้งเมืองที่เคยหยุดนิ่งกลับเคลื่อนไหวไปมา ถนนหนทางสลับสับเปลี่ยนกันอย่างน่าเวียนหัว
โฮริ “จริงๆด้วย ผมไม่ได้คิดไปเองว่าพวกเรากำลังวิ่งวนไปมา ที่นี่มันมีชีวิต!!”

ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
ทาเคจิ ฮัมเปตะในสภาพที่ผิดแผกไปจากมนุษย์ก็ได้ปรากฎกายขึ้นแล้วโจมตีใส่พวกเขา
เรียวมะพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ทาเคจิก็ยังยืนยันว่าจะปกป้องประเทศนี้ แม้จะต้องฆ่าเรียวมะก็ตาม
นันไคบอกให้พวกมุตสึรีบมุ่งไปที่คฤหาสถ์ของโทโยซะ ส่วนเขาจะหาทางทำอะไรกับทาเคจิเอง
ฮิเซ็นลั่น “ไม่ได้!!! อาจารย์ยังมีประสบการณ์ต่อสู้ไม่มากพอ!!!”
โคการาสุมารุ กับสึรุมารุจึงอาสาช่วยนันไค เรียวมะก็ขออยู่ด้วย โดยฝากให้อิโซไปกับพวกมุตสึ

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น นันไคเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สองดาบอาวุโสจึงให้นันไคหลบ แล้วขอออกโรงเอง
การจับคู่กันของดาบอาวุโสทั้งสองทำให้ทาเคจิตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่เขายังคงไม่ยอมลดละ
ทาเคจิทำท่าจะหยิบดาบขึ้นสู้อีกครั้ง แต่โคการาสุมารุอาศัยความไวกว่ายกดาบขึ้นจ่อที่คอของอีกฝ่าย
“ทาเคจิซัง!!!!” เรียวมะตะโกนขึ้น “พวกเราอยากจะสร้างญี่ปุ่นที่ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น
และจะเป็นนักรบผู้อุทิศตนเพื่อญี่ปุ่นไม่ใช่หรือ ข้าเองก็กำลังมุ่งทำเป้าหมายนั้นในวิธีของข้าอยู่
ข้าได้ก่อตั้งบริษัทการค้าชื่อ ‘คาเมยามะ’ เพื่อทำการค้าขายกับชาวต่างประเทศ
แล้วก็ยังได้จับมือเคลื่อนไหวกับแคว้นซัทสึมะและแคว้นโจชู  แล้วสร้างกลุ่มพันธมิตรขึ้นมา
นั่นคือ ‘กลุ่มพันธมิตรซัตโจ’ ยังไงเล่า!!!”

ทันทีที่เรียวมะพูดจบ เหล่าโทวเคนดันชิ ณ ที่นั้นต่างนิ่งอึ้ง
“ซากาโมโตะ เรียวมะ…” โคการาสุมารุเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ทั้งเรื่องคาเมยามะและพันธมิตรซัตโจ….
มันควรจะเป็นเรื่องราวในอนาคตหลังจากนี้ของเจ้า เป็นเรื่องที่ตัวเจ้าในปีบุนคิวที่ 3 นี้ไม่ควรจะล่วงรู้”
สึรุ “ซากาโมโตะ เรียวมะ เจ้าเป็นใครกันแน่…”

——————————————————————————-

ด้านพวกมุตสึที่พยายามจะมุ่งไปที่คฤหาสถ์โทโย ได้ถูกคนของพรรคโทสะคินโนล้อมไว้
ฮิเซ็นให้มุตสึ อิสึมิโนะคามิ และโฮริรีบล่วงหน้าไปก่อน ส่วนอิโซอาสาว่าจะขออยู่ช่วยตรงนี้ด้วย
แล้วการต่อสู้ร่วมกันครั้งแรกของฮิเซ็น และอิโซก็ได้เริ่มขึ้น ทั้งสองหันหลังให้กัน ตั้งดาบพร้อมต่อสู้
อิโซ “ดาบของข้าคือดาบที่จะลงทัณฑ์แทนสวรรค์…. ถึงแม้ข้าจะไม่อยากเข่นฆ่าผู้คนก็เถอะ”
ฮิเซ็น “สำหรับเจ้าน่ะ!!! ก็มีเพียงแค่นั้นไม่ใช่หรือ”
อิโซ “อา!!!!!!!!!”

——————————————————————————-

เรียวมะทวนสิ่งที่สึรุถามอีกครั้ง ก่อนจะยืนยันว่าตัวเขาคือซากาโมโตะ เรียวมะ
จังหวะนั้น ทาเคจิอาศัยจังหวะที่ทุกคนเผลอ ปัดดาบของโคการาสุมารุออกแล้ววิ่งเข้าจู่โจมใส่เรียวมะ
โทวเคนดันชิทั้งสามรีบเข้าไปขวางเอาไว้ นันไคกระทุ้งสันดาบเข้าใส่ท้องทาเคจิอย่างแรงจนสลบไป
ก่อนจะประคองร่างของผู้เป็นนายเก่าไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“อย่างนี้เองหรือ หากได้ประดาบกับสิ่งเลียนแบบของเจ้านายเก่าแล้ว…
จะได้รับผลกระทบทางจิตในเช่นนี้เองหรือ….อืมมม น่าสนใจทีเดียว” นันไคค่อยๆวางทาเคจิลง
จากนั้นจึงได้หันมาถามเรียวมะว่าทำไมถึงได้รู้เรื่องในอนาคต เจ้าใช่เรียวมะตัวจริงแน่หรือ
เรียวมะอ้ำอึ้ง “ข..ข้าคือซากาโมโตะ เรียวมะ ที่เป็นชาวญี่ปุ่น…”
“หัวหน้าของที่นี่คือเจ้างั้นสินะ!!!” นันไคประกาศกร้าวก่อนเข้าโจมตีใส่เรียวมะ

แต่ทว่า….โคการาสุมารุ กับสึรุมารุได้เข้ามาขวางทางเขาเอาไว้
นันไคถามทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงช่วยเรียวมะซึ่งน่าจะเป็นศัตรูล่ะ
สึรุยิ้ม “อะไรกัน…พวกเราแค่ทำเรื่องที่ถูกนายท่านขอร้องมาก็เท่านั้น”
นันไค “ถูกขอร้องมารึ?”
โคการาสุมารุอธิบาย “เป็นคำบัญชาลับจากนายท่าน คำบัญชาลับที่ว่า…
หากบุนคิวโทสะแห่งนี้เป็นภารกิจที่มีชะตาเกี่ยวพันกับมุตสึโนะคามิ โยชิยูกิอย่างลึกซึ้งแล้วล่ะก็
นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะให้เขาได้เผชิญหน้ากับมัน…”
สึรุ “พวกเราจะถูกกระตุ้นจากความรู้สึกที่ถูกใส่ลงในสิ่งของ เรื่องราวจะทำให้โทวเคนดันชิแข็งแกร่งขึ้น
ดังนั้น…บุนคิวโทสะแห่งนี้จึงเป็นเรื่องราวที่เหมาะที่สุดสำหรับมุตสึโนะคามิไงล่ะ”
โคการาสุมารุ “นายท่านคิดว่าเรื่องราวนี้จะทำให้มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิแข็งแกร่งขึ้นอย่างไรเล่า”
สึรุ “พวกเราจึงปล่อยให้เจ้าสังหารเรียวมะไม่ได้ เพราะเรียวมะที่อยู่ตรงนี้คือเรื่องราวของมุตสึโนะคามิ”
นันไคได้ฟังเหตุผลก็หัวเราะขึ้นในลำคอ “…เข้าใจแล้วล่ะ ข้าเองก็ชักจะอยากรู้เสียแล้ว
ว่าเรื่องราวนี้จะส่งผลเช่นไรต่อมุตสึโนะคามิคุงกันนะ?”

เรียวมะเข้าไปประคองทาเคจิ พลางบอกว่าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่สึรุบอกแค่ว่ามุตสึโนะคามิจะเป็นคนตัดสินเองว่าจะทำอย่างไรหากท่านไม่ใช่เรียวมะตัวจริง
ที่เหลือพวกเขาก็แค่ทำในสิ่งที่ทำได้เท่านั้น ก่อนจะขอตัวแยกออกไป

ในขณะที่เรียวมะกำลังประคองทาเคจิขึ้นเดิน ปราสาทโคจิก็ได้เคลื่อนมาอยู่ด้านหน้าเขา
ทาเคจิฮึดแรงเฮือกสุดท้าย “เรียวมะ…เจ้าเป็นคนเริ่มต้นมัน เจ้าเป็นคน….” แล้วสลบไป
เรียวมะกอดผู้เป็นอาจารย์แน่น ก่อนค่อยๆประคองเดินไปยังปราสาทโคจิ

——————————————————————————-

ตัดมาทางด้านฮิเซ็นกับอิโซ พวกเขากำลังต่อสู้กับคนของพรรคโทสะคินโนที่มีจำนวนมากกว่า
อิโซเพลี่ยงพล้ำ และโดนสบประมาทว่าเขาก็แค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น
ฮิเซ็นจึงเข้าไปช่วย “หมอนี่ไม่ใช่สุนัข แต่เป็นมือสังหาร” แล้วหันไปหาอิโซ “ใช่มั้ยเล่า!!!”
ก่อนจะซัดดาบใส่จนอีกฝ่ายแพ้ไป อิโซมองฮิเซ็นอึ้งๆ ก่อนพยายามลุกขึ้นแต่ก็เสียหลักเพราะหมดแรง
ฮิเซ็นยื่นมือส่งให้ “นี่ไม่ใช่เวลาจะมาเอ้อระเหยอยู่ที่นี่ ยังมีศัตรูที่ต้องฆ่าอยู่อีกเยอะเลยไม่ใช่เรอะ”

——————————————————————————-

ทางด้านพวกสึรุมารุ โคการาสุมารุ และอาจารย์นันไค
เพราะเมืองที่ขยับเคลื่อนไปมาทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้คฤหาสถ์ของโทโยได้
นันไคเลยเสนอว่าให้ใช้กับดักลองดูอาจจะได้ผล แล้วก็ถามสึรุว่าอยากจะลองกดดูไหม
สึรุ “จะดีเหรอ!!!!!!!!!!!!!!” พร้อมส่งสายตาแพรวพราวระยิบระยับราวกับได้ของเล่นใหม่
เจ้าตัวทำท่าวอร์มร่างกาย ก่อนจะกดปุ่มลงไป ทำให้กับดักระเบิดส่งเสียงเลือนลั่นไปทั่ว

S__3276804

ผลของการระเบิดทำให้เมืองที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาหยุดนิ่งได้ในที่สุด
พวกมุตสึที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเมืองจึงได้โอกาสรีบมุ่งไปที่คฤหาสถ์ของโทโย
ก่อนจะได้พบกับโยชิดะ โทโยในสภาพที่ผิดแผกไปจากมนุษย์อยู่ภายในคฤหาสถ์นั้น

โทโยประกาศกร้าวต่อหน้าพวกมุตสึว่าตนเองคือโยชิดะ โทโย ก่อนจะพุ่งดาบโจมตีใส่
ในระหว่างต่อสู้ โทโยสามารถมองเห็นเรื่องราวของโทวเคนดันชิได้เพียงแค่สัมผัส
เขาได้มองเห็นเรื่องราวของฮิจิคาตะ โทชิโซจากตัวของอิสึมิโนะคามิ และโฮริคาว่า
โทโย “ดาบของชินเซ็นกุมิเอ๋ย…พวกเจ้าก็เหมือนกับข้าสินะ
ดาบที่ต่อสู้เพื่อรัฐบาลโชกุนโทคุกาวะที่ดำเนินสืบเนื่องมาถึง 264 ปี
ดาบที่ต่อสู้เพื่อยุคสมัยของดาบที่ดำเนินสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคสมัยแห่งสงคราม…มาร่วมกับข้าสิ
มาทำให้ประวัติศาตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงนี้รุกรานเข้าสู่ประวัติศาตร์ที่แท้จริงไงเล่า!!!
อิสึมิโนะคามิ “พูดอะไรของแก ใครมันจะไปทำแบบนั้นได้!!!!!!”
พูดเสร็จก็พุ่งเข้าโจมตีใส่โทโยด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่ออีกฝ่ายสามารถโต้กลับได้
โทโยบอกอีกว่า ถ้าเป็นเรียวมะล่ะก็เขาจะสามารถหยุดสงครามโบชินได้ ถ้าเรียวมะมีชีวิตอยู่…
ก็อาจจะไม่เกิดสงครามโบชิน แล้วเจ้านายเก่าของอิสึมิโนะคามิกับโฮริคาว่าก็อาจจะมีชีวิตรอดก็ได้

คำพูดของโทโยทำให้ทั้งอิสึมิโนะคามิ และโฮริคาว่าชะงัก
ในใจเริ่มบังเกิดความสับสนเพราะถูกอีกฝ่ายใช้ปมเรื่องเจ้านายเก่ามาจี้จุดอ่อน
และความสับสนก็ทำให้ร่างกายหนักอึ้งจนไม่อาจลุก สองมือจึงได้แต่กำดาบแน่นเพราะเจ็บใจ

แต่มุตสึกลับหัวเราะขึ้นมา “เรื่องนั้นน่ะมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเรียวมะ…เจ้านายเก่าของข้าน่ะ
ถูกลอบสังหารที่โรงเตี๊ยมโอมิยะในเกียวโต และนั่นก็เป็นประวัติศาตร์ของพวกเรายังไงล่ะ”
ประโยคที่พูดด้วยรอยยิ้มราวกับยอมรับทุกสิ่งได้ของมุตสึทำให้ดาบของฮิจิคาตะทั้งสองไม่เข้าใจ
อิสึมิโนะคามิจึงตะโกนลั่น “ทำไมล่ะมุตสึโนะคามิ ทำไมเจ้าถึงยอมรับเรื่องนั้นได้ง่ายดาย
ทำไมถึงทิ้งเรื่องนั้นไปได้ง่ายๆ ทำไมเจ้าถึง…แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!!!!!?!!?”
มุตสึยิ้ม “ข้าน่ะ ไม่ได้คิดจะทิ้งอะไรไปหรอกนะ…นิสัยนี้น่ะคงได้มาจากนายเก่านั่นแหล่ะ”
โทโยหัวเราะ “เจ้าคิดว่าดีแล้วงั้นรึที่ซากาโมโตะ เรียวมะต้องตายลงทั้งๆที่เป้าหมายยังไม่สำเร็จ!!”
“อา ไม่เป็นไรหรอก!!” มุตสึหัวเราะ ก่อนจะบอกว่าหมอนั่นไม่ใช่ว่าไม่บรรลุเป้าหมายเสียหน่อย
เพราะประเทศที่คนผู้นั้นปรารถนามาตลอดก็มีอยู่แล้วยังไงล่ะ!!!!

แล้วทั้งสามก็เข้าโจมตีใส่โทโยอีกครั้ง มุตสึเพลี่ยงพล้ำล้มลง เขารีบหยิบปืนขึ้นมา
แต่จังหวะที่ยกปืนขึ้นจะยิงใส่ศัตรู เขาก็ถูกอีกฝ่ายซัดเข้าที่มือจนปืนกระเด็นหลุดไปไกล
ก่อนจะโดนโทโยเล่นงานซ้ำจนล้มฟุบลงกับพื้น

โทโยง้างดาบขึ้นสูง…..

แต่วินาทีที่กำลังจะวาดดาบลงนั้นเอง เขาก็ต้องชะงัก
เมื่อเห็นว่าอิสึมิโนะคามิ คาเนะซาดะกำลังถือปืนเล็งมาที่ตน

S__3276805
โทโย “เจ้าไม่อยากช่วยฮิจิคาตะ โทชิโซงั้นหรือ”
อิสึมิโนะคามิไม่สนใจ “แค่เล็งให้ดีก็พอ….” แล้วหันไปหามุตสึ “ใช่มั้ย…มุตสึโนะคามิ”
ก่อนจะลั่นไกใส่โทโยจนอีกฝ่ายล่าถอยหายไปในที่สุด

อิสึมิโนะคามิยื่นปืนคืนให้มุตสึ แม้ปากจะบอกว่าเขาแค่ใช้ของที่มันจะช่วยให้ชนะเท่านั้นแหล่ะ
แต่มือนึงก็ช่วยพยุงมุตสึขึ้นมาประคองไว้ไม่ให้ล้ม มุตสึยิ้มแซวอีกฝ่ายว่าทันสมัยขึ้นมาแล้วนะ
อิสึมิโนะคามิ “ก็นี่เป็นช่วงเริ่มต้นของจุดจบของซามูไรนี่นะ จะไม่ให้ข้าบ่นก็คงไม่ได้หรอก”
โฮริยิ้มกว้าง “มุตสึโนะคามิซัง คาเนะซัง ไม่ว่าจะปืนหรือดาบก็เท่มากเลยล่ะครับ!!”

จากนั้นเหล่าโทวเคนดันชิที่เหลือ พร้อมด้วยอิโซก็ตามมาสมทบกับพวกมุตสึ
หลังเอาชนะโทโยได้ทุกอย่างก็เหมือนจะคลี่คลายลง แต่กลิ่นไอพลังของศัตรูกลับยังคงไม่หายไป
นันไคสันนิษฐานว่านั่นอาจเป็นเพราะคนบงการที่แท้จริงยังคงไม่ถูกจัดการก็เป็นได้
ฮิเซ็นกับอิโซถึงกับพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะนึกว่าจะเสร็จงานแล้วเสียอีก
“นั่นก็เพราะหัวหน้าของพวกศัตรูไม่ใช่โยชิดะ โทโยไงล่ะ” สึรุอธิบาย
ฮิเซ็น “อาจารย์ แล้วศัตรูอยู่ที่ไหนล่ะ?”
นันไค “สถานที่ที่เหล่ากองทัพข้ามเวลาไปรวมตัวกันอยู่…ปราสาทโคจิ!”
และแล้วเหล่าโทวเคนดันชิก็มุ่งหน้าสู่ปราสาทโคจิเพื่อมุ่งสู่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

——————————————————————————-

เมื่อเข้าสู่ส่วนฮงมารุของปราสาทโคจิ พวกเขาก็ต้องต่อสู้กับกองทัพข้ามเวลาจำนวนมาก
และที่นั่นสึรุได้พบกับกองทัพข้ามเวลาปริศนาอีกครั้ง มันเอ่ยชื่อเขา “สึรุมารุ คุนินากะ…”
สึรุ “โย่! เจอกันอีกแล้วนะ!!” ก่อนจะโจมตีเข้าใส่อีกฝ่าย ระหว่างที่ประดาบสึรุก็พูดขึ้น
“ไม่คิดเลยว่าจะได้มาประดาบกับเจ้าในที่แบบนี้ ไม่สิ…เจ้าคือสิ่งที่คล้ายตัวจริงมากงั้นรึ
อย่าบอกนะว่าแม้แต่เจ้าเองก็เป็นสิ่งที่คลุมเครือด้วยเช่นกันน่ะ….”
“จงแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีก เจ้าคือดาบที่จำเป็นต่อเรื่องราวนี้”
กองทัพข้ามเวลาปริศนาทิ้งคำพูดไว้ก่อนตวัดดาบออก แล้วหนีหายเข้าไปในความมืด
สึรุหัวเราะเบาๆ แล้วก้มมองดาบของตน
“ข้าถูกตีขึ้นในยุคเฮอัน และถูกส่งต่อจากเจ้านายคนแล้วคนเล่าจนกระทั่งตอนนี้
ถ้ามีแต่เรื่องที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วล่ะก็ หัวใจคงได้เหี่ยวเฉาตายไปก่อน…
แต่ดูเหมือนหัวใจข้าจะยังไม่ตายสนิทไปเสียทีเดียวนะ”

——————————————————————————-

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ทั้งฮิเซ็น นันไค และมุตสึต่างก็ต่อสู้จนบังไค
ก่อนจะได้พบกับทาเคจิที่ยังไม่ตัดใจยอมแพ้ แต่พอเหมือนจะรู้ว่าตนสู้ไม่ได้
ก็ร้องลั่นบอกว่าเขาแค่อยากจะปกป้องประเทศนี้เท่านั้น ทำไมต้องมาขวาง
ทาเคจิก้มมองดาบของตัวเอง “มีผู้คนอยู่บนปลายดาบเล่มนี้ของข้า…
ผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในอนาคตของประเทศนี้ไงเล่า ดาบของข้าคือดาบที่มีไว้เพื่อผู้คนเหล่านั้น!!!”
พอทาเคจิเริ่มคลุ้มคลั่ง โยชิดะ โทโยก็ปรากฎตัวออกมาบอกทาเคจิว่ามันจบลงแล้ว
พวกเขาไม่อาจเอาชนะประวัติศาตร์ได้ ยุคของดาบมันจบลงแล้วเหมือนที่เรียวมะได้พูดไว้
ประเทศญี่ปุ่นที่พวกเขาวาดฝันไว้น่ะ ได้เวลาต้องปล่อยวางมันไว้ในอดีตแล้ว

ทาเคจิยังคงไม่ยอม เขาหันไปโจมตีใส่โทโย แต่ก็ไม่อาจสู้ได้ จึงหันไปสั่งอิโซให้ฆ่าโทโยแทน
อิโซลังเล แต่ความภักดีที่มีต่อทาเคจิทำให้เขาไม่อาจฝืนคำสั่งได้ สองมือจับดาบแน่น
มุตสึบอกให้อิโซพอได้แล้ว เรียวมะก็พยายามห้าม แต่อิโซกลับตะโกนลั่นด้วยน้ำตาที่นองหน้า
“ข้าคือมือสังหารโอคาดะ อิโซ หากไม่ฆ่าคน แล้วข้าจะเป็นอะไรเล่า!!!!”
อิโซร้องลั่น ก่อนจะโจมตีใส่โทโย แต่ก็เพลี่ยงพล้ำสู้ไม่ไหว จังหวะนั้นฮิเซ็นได้วิ่งเข้าไปช่วย
ดาบอันคมกริบของฮิเซ็นแทงทะลุเข้าที่ตัวโทโย ก่อนที่ฮิเซ็นจะหันกลับมามองผู้เป็นอดีตเจ้านาย
“ไม่ได้อยากจะฆ่า…. เรื่องแบบนั้นน่ะ….ข้าเข้าใจดีที่สุด…”
แล้วฮิเซ็นก็ปิดฉากสังหารโทโยจนร่างนั้นแตกสลายไป

เมื่อกำจัดโทโยลงได้ นันไคก็ได้หันคมดาบใส่เรียวมะ บอกว่าตอนนี้เหลือเพียงเรียวมะแล้ว
ท่าทีของเรียวมะแปลกไปทันที “ไม่จริง ข้าคือ…ข้าคือ ซากาโมโตะ เรียวมะ”
ทันใดนั้นเองกองทัพข้ามเวลาจำนวนมากก็ได้ปรากฎกายขึ้นล้อมรอบตัวเรียวมะเอาไว้
เรียวมะร้องลั่นราวกับคนเสียสติก่อนจะเผยร่างที่แท้จริงต่อหน้าพวกมุตสึ แล้วหนีไป

capture-20200222-185543
“เรียวมะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” มุตสึร้องลั่น พยายามตามไปแต่ก็โดนศัตรูขวางไว้
ฮิเซ็นกับนันไคเข้าไปรับมือ แล้วบอกให้มุตสึรีบตามเรียวมะไปซะ ไปทำให้เรื่องนี้มันจบลงเสียที
ฮิเซ็น “รีบตามไปเซ่!!!!!!!”
นันไค “พวกเราน่ะ!!!!!!!!!!! เป็นดาบนะ”
มุตสึยิ้มบอกว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะรีบวิ่งตามเรียวมะไป

“เรียวมะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงร้องเรียกของมุตสึทำให้เรียวมะชะงักเท้า
ก่อนเรียวมะจะเล่าว่าเขาจำได้แล้ว จำได้ว่าได้รับจดหมายจากพี่สาวว่าทาเคจิกับอิโซตายแล้ว
และในตอนนั้นเขาก็คิดขึ้นมาว่า หากเขาไม่ถอนตัวออกจากแคว้นล่ะก็…
หากเขาเกลี้ยกล่อมทาเคจิให้เข้าใจยอมรับได้ หรือเปลี่ยนแปลงประวัติศาตร์ได้ล่ะก็…
พอรู้สึกตัวอีกที เขาก็มาอยู่ที่แห่งนี้แล้ว ในตอนแรกก็นึกว่าเป็นเพียงความฝัน
แต่พอคิดว่าถ้าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโทสะ ปีบุนคิวที่ 3 นี่ได้จริงๆล่ะ!
พูดมาถึงตรงนี้เรียวมะก็ยิ้มแห้งๆราวกับผิดหวังในตนเอง “……ช่างบ้าบอเสียจริงนะ
ทั้งๆที่เพราะไม่อาจเริ่มใหม่ได้นั่นแหล่ะ โลกใบนี้ถึงได้สนุกนัก!!!
มุตสึได้ฟังก็ยิ้มออกมา ก่อนถามเรียวมะไปว่าจำได้ไหม ตอนที่เจอกันที่นี่ครั้งแรก
เขาบอกไปว่าไม่อยากเจอกับเรียวมะเลย นั่นก็เพราะเขารู้สึกว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้

“เรียวมะ ข้าคือโทวเคนดันชิ ดาบที่ต่อสู้เพื่อปกป้องประวัติศาตร์” มุตสึเอ่ยความจริง
เรียวมะ “งั้นรึ มุตซังคือมุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ ดาบล้ำค่าของตระกูลซากาโมโตะจริงๆด้วยสินะ”
มุตสึ “ที่นี่เป็นโลกที่ประวัติศาตร์เปลี่ยนแปลง และคนที่สร้างมันขึ้นมาก็คือเจ้าไงล่ะ เรียวมะ”
เรียวมะ “เจ้าจึงต้องฟันข้างั้นรึ”
มุตสึทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะฝืนยิ้ม “อา ข้าต้องทำ”
เรียวมะยิ้มตอบ บอกว่าถูกมุตสึฆ่าก็ไม่เลว เพราะมุตสึเป็นดาบล้ำค่าประจำตระกูลเขานี่เนาะ
แล้วทั้งสองก็หัวเราะ ก่อนที่เรียวมะจะนั่งลงบอกให้มุตสึลงมือได้เลย

มุตสึเดินเข้าไปหาเรียวมะ แล้วคุกเข่าลงวางดาบไว้แนบกาย
“ข้าไม่อยากฟันผู้ที่ไม่ตอบโต้…ดังนั้น ช่วยสู้กับข้าทีเถอะ เรียวมะ!!!
มุตสึก้มหัวขอร้อง ก่อนเงยขึ้นยิ้มทั้งน้ำตา  “ข้าอยากจะสู้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี แล้วฟันท่าน!!!”
เรียวมะหันมองมุตสึ “มุตซังช่างเป็นชายที่มีจิตใจดีจังเลยนะ”
มุตสึยิ้ม “ก็นี่เป็นหัวใจที่ได้รับมาจากชายชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่าซากาโมโตะ เรียวมะไงล่ะ”
เรียวมะได้ยินดังนั้นก็ยิ้มตอบ “ข้าเข้าใจแล้ว!!” ก่อนลุกขึ้นชักดาบออกจากฝัก “งั้นมาเริ่มกันเลยไหม!?”

S__3276816

แล้วการต่อสู้ระหว่างมุตสึกับเรียวมะก็ได้เริ่มต้นขึ้น ทั้งสองประดาบกันไปมาอย่างสูสี
ในจังหวะหนึ่งทั้งสองได้หยิบปืนขึ้นมาพร้อมกัน
เรียวมะ “ยุคนี้มันต้องปืนจริงๆสินะ!!”
มุตสึ “อา ยุคของดาบน่ะมันล้าสมัยไปแล้ว!!”
ทั้งสองต่างใช้ทั้งปืนและดาบในการต่อสู้  เสียงปะทะระหว่างคมดาบกับเสียงปืนดังสลับกันไปมา
ก่อนที่มุตสึจะพลาดท่าเสียจังหวะโดนวิถีกระสุนของเรียวมะเข้า
แต่มุตสึฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ เขายกปืนขึ้นยิงใส่ดาบของเรียวมะที่กดลงมาจนอีกฝ่ายเสียหลัก
ก่อนฉวยจังหวะนั้นตวัดดาบเข้าถึงตัวเรียวมะได้ในที่สุด

แต่มุตสึกลับชะงักมือเอาไว้ เรียวมะจึงบอกว่าไม่ต้องเกรงใจหรอก ลงมือเสียเถอะ
“เจ้าไม่รู้สึกหรือ ว่าเราจะได้พบกันอีกน่ะ…มุตซัง”

วินาทีนั้นมุตสึร้องลั่นออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนตัดสินใจลงดาบครั้งสุดท้าย
ร่างกายของเรียวมะค่อยๆบังเกิดเป็นรอยร้าว เขายิ้มพูดกับมุตสึ “เจ้าช่างเป็นดาบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

อิโซกับทาเคจิเดินเข้ามาหาเรียวมะ เรียวมะเอ่ยปากขอโทษที่ลากทั้งสองคนเข้ามาเกี่ยว
ทาเคจิก็ว่าช่างเถอะ เจ้าน่ะมันก็เป็นซะแบบนี้ตลอดนี่ เรียวมะหัวเราะ ก่อนตะโกนถามมุตสึ
“นี่มุตซัง!!!!!!!!!! ญี่ปุ่นที่เจ้ารู้จัก เป็นประเทศที่ดีรึเปล่า?!!!?”
มุตสึยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนตะโกนตอบสุดเสียง “อาาาาาาาาา เป็นประเทศที่ดีเลย!!!!!!!!!”
เรียวมะ “เจ้าพูดได้เต็มปากรึเปล่า!!!?!!!!?”
มุตสึ “อาาาาาาาาา!!!!!!!!!”
เรียวมะยิ้ม “ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว…เหล่านักรบที่ได้ตายลงจะต้องภาคภูมิใจกับโลกนั้นแน่นอน”
สิ้นคำของเรียวมะ ร่างของทั้งสามก็ได้แตกสลายหายไปในที่สุด

เรียวมะหายไปแล้ว เหลือเพียงปืนกระบอกหนึ่งตกอยู่เท่านั้น…
มุตสึค่อยๆเดินไปเก็บมันขึ้นมามองดู พอดีกับที่เหล่าโทวเคนดันชิมาถึง
นันไค “ศัตรูที่แข็งแกร่งก็ยังเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ดีนะ”
ฮิเซ็น “แต่รูปร่างนั่นมัน…”
นันไค “….ก็แค่ของปลอมเท่านั้น”
มุตสึเดินกลับมาหาพรรคพวก “เขายัง…มีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง คงไม่ตายลงในที่แบบนี้หรอก”
นันไค “….อาจจะใช่ก็ได้ แต่เจ้ายังจำเรื่องสัญชาตญาณที่เราคุยกันได้สินะ?
มีปืนที่พังไปแล้วตกอยู่ที่นี่…ดังนั้นคำตอบที่เหนือความคาดหมายก็อาจจะเป็นอย่างเช่นที่ว่าก็ได้”
มุตสึมองปืนแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้ม “อา…”
ฮิเซ็นก็ว่าเอาเถอะ เรื่องยากๆน่ะเขาไม่เข้าใจหรอก ยังไงซะภารกิจของเขาก็เสร็จสิ้นแล้ว
แต่ก็ยังต้องไปรายงานกับรัฐบาลเวลาก่อนอยู่ดี พอจะชวนนันไคไปด้วยกัน
นันไคก็รีบบอกว่าจะขอดูรอบๆแถวนี้อีกหน่อย ฝากไปรายงานกับรัฐบาลแทนด้วย
ว่าแล้วก็เดินหนีไป ฮิเซ็นรีบวิ่งตาม “อาจารย์จะไปไหนน่ะ ต้องกลับไปกับข้าสิ—”
อิสึมิโนะคามิก็แบบอะไรของพวกนั้นเนี่ย ส่วนมุตสึหัวเราะบอกว่าเป็นพวกที่ตลกดีๆจริงเลยนะ
จากนั้นพวกเขาก็พากันไปตามหาสองดาบอาวุโสที่แยกทัพออกไปก่อนหน้า

——————————————————————————-

โคการาสุมารุกับสึรุมารุสามารถจัดการกับกองทัพข้ามเวลากลุ่มสุดท้ายได้สำเร็จ
พวกเขาก็คุยกันว่ามุตสึคงโค่นเรียวมะลงได้แล้ว ภารกิจลับของพวกเขาก็ถือว่าสำเร็จเช่นกัน
ที่เหลือก็แค่กลับฮงมารุไปรายงานซานิวะ กับฮาเซเบะที่เป็นดาบเลขาก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ

“เท่านี้ประวัติศาตร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงก็จบลงแล้วสินะ…” อยู่ๆสึรุก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเศร้า
โคการาสุมารุจึงถาม “เป็นอะไรไปหรือ ถึงได้ทำหน้าอาวรณ์เสียอย่างนั้น?”
สึรุ “ข้าแค่คิดว่าน่าจะเจอเบาะแสอะไรบางอย่างจากโลกที่ถูกละทิ้งนี่ก็ได้น่ะสิ”
โคการาสุมารุ “โฮ่ สึรุมารุ คุนินากะเองก็คิดเช่นเดียวกับข้าอย่างนั้นหรือ
ว่าวังวนที่ผู้นั้นอยู่จะเป็นโลกที่ถูกละทิ้งหรือเปล่าหนอ….”
สึรุ “ก็ไม่รู้หรอกนะว่ากำลังทำอะไรอยู่ที่นั่น แต่สักวัน…ข้าจะดึงออกมาให้ได้”
โคการาสุมารุ “เป็นเพราะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นกระมัง รัฐบาลจึงได้ตัดสินว่าผู้นั้นเป็นสิ่งบกพร่อง
ตอนนี้ทั้งนายท่าน และฮงมารุของพวกเราอาจจะถูกรัฐบาลจับตามองอยู่ก็เป็นได้
เพราะหากว่ากันตามจริงแล้ว…รัฐบาลจะยุบฮงมารุเราไปเสียก็คงไม่แปลก แต่พวกเขากลับไม่ทำ”
สึรุ “คงเพราะประเมินแล้วว่าฮงมารุของพวกเรายังมีประโยชน์ใช้งานล่ะมั้ง
เลยถือเป็นโอกาสดีส่งภารกิจไม่ธรรมดาอย่างการสำรวจพิเศษแบบนี้มาให้ฮงมารุเรา”
โคการาสุมารุ “นายท่านเองก็ใช้โอกาสนี้เพื่อทำให้โทวเคนดันชิของฮงมารุเราแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน”
สึรุหัวเราะ “เพียงแค่การออกเดินทางไปฝึกตนมันยังไม่พอสินะ…”
โคการาสุมารุยิ้ม “อยากจะตอบสนองความคาดหวังนั้นให้ได้จังเลยนะ
เพราะเรายังต้องการกำลังรบในการต่อสู้อยู่อย่างไรเล่า
สึรุมารุ คุนินากะเองก็คงกำลังคิดเช่นนั้นอยู่สินะ? ถึงได้ตามหาเบาะแส ณ ที่แห่งนี้
เบาะแสที่จะพาผู้นั้นออกมาจากวังวน….”
“ไม่ใช่เสียหน่อย” สึรุตอบเสียงเศร้า “ข้าเพียงแค่….เหงาเท่านั้น”

capture-20200222-191817

โคการาสุมารุประหลาดใจกับคำตอบ
“เหงางั้นหรือ น่าประหลาดใจนัก ไม่สมกับเป็นเจ้าเลยนะ สึรุมารุ คุนินากะ”
สึรุก็หัวเราะว่า “ไม่สมกับเป็นข้ารึ? ท่านโคการาสุมารุเองนั่นแหล่ะที่ไม่สมกับเป็นท่านเลย
ผ่านกาลเวลามานับพันปี แต่กลับมีเรื่องที่ยังไม่รู้มากมายกว่าเรื่องที่รู้เสียอีกมิใช่หรือ
เรื่องที่จะสมหรือไม่สมนั้น แม้แต่ตัวข้าก็ยังไม่รู้คำจำกัดความของตนเองเลย…”
โคการาสุมารุยิ้ม “นั่นสินะ เช่นนั้นข้าต้องขออภัยด้วย”
ทั้งสองหัวเราะ

สึรุ “เพราะข้ามักจะเป็นฝ่ายที่ถูกทําให้ประหลาดใจอยู่เสมอนั่นล่ะนะ
ดังนั้นข้าจึงจะช่วยออกมา และจะเป็นทีของข้าบ้างที่จะเป็นฝ่ายทําให้ประหลาดใจ…”
โคการาสุมารุ “อา ต้องประหลาดใจเป็นแน่”

แล้วทั้งสองก็ได้ยินเสียงโฮริร้องเรียก เลยบอกว่าได้เวลากลับไปหาพวกมุตสึแล้วล่ะ
ก่อนจะไป สึรุได้แหงนขึ้นมองท้องฟ้าที่บัดนี้เข้าสู่ช่วงเวลาของค่ำคืน
พระจันทร์เสี้ยวที่แสนงดงามได้โผล่ขึ้นประดับท้องฟ้ายามราตรีท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย
“ดูสิ โคการาสุมารุ…มิคาสึกิ(จันทร์เสี้ยว)ล่ะ”

——————————————————————————-

ภายใต้ท้องฟ้าที่มีพระจันทร์เสี้ยวประดับ
กองทัพข้ามเวลาปริศนาตนหนึ่งได้ย่างกรายออกมาจากความมืด

S__3276812
“ยังไม่พอ…
จงส่งเรื่องราวมาให้มากกว่านี้อีก…
เรื่องราวของโอดะ โนบุนากะ
เรื่องราวของดาเตะ มาซามุเนะ
เรื่องราวของคุโรดะ คันเบย์
เรื่องราวของอาชิคากะ โยชิเทรุ
เรื่องราวของซากาโมโตะ เรียวมะ
จงส่งเรื่องราวที่หนักหนามามากกว่านี้…

แล้วสักวันหนึ่ง…
มิคาสึกิ มุเนะจิกะ
…ฉันจะช่วยนายออกมาให้ดู”

——————————————————————————-

กลับมาที่ฮงมารุ ฮิเซ็นได้ปรากฎกายขึ้นอีกครั้งจากพลังของซานิวะ
ก่อนจะโดนสึรุรับน้องด้วยการแกล้งจ๊ะเอ๋ จนฮิเซนตกใจวิ่งไปเกาะโฮริอย่างน่าเอ็นดู

S__3276807
โคการาสุมารุเดินยิ้มเข้ามา “พวกเรามีกำลังรบคนใหม่มาแล้วสินะ”
อิสึมิโนะคามิ “ถึงจะเป็นดาบสังหารมนุษย์แต่ก็ต้องทำเวรประจำวันให้ดี เวรดูแลม้าล่ะเป็นไง?”
ฮิเซ็นปฏิเสธบอกว่าอย่ามาให้เขาไปทำงานดูแลม้านะ เวรทำสวนก็ไม่เอา เขามันพวกสายกินต่างหาก
สึรุเลยชวนให้ไปประลองฝีมือกับเขา ฮิเซ็นยิ้มทำท่าเบ่ง “เกิดหักไปข้าไม่รู้ด้วยนะ”
แล้วมุตสึก็เดินเข้ามา พอเห็นฮิเซ็นก็ร้องดีใจทักว่ามาแล้วเรอะ ทำไมไม่ไปทักเขาหน่อย
ฮิเซ็นทำหน้าเซ็งๆ “นั่นมันก็เรื่องของข้า”
มุตสึ “ทำตัวห่างเหินจังน้อ เจ้ากับข้าเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เรอะ”
ฮิเซ็น “เจ้าที่เป็นดาบแต่กลับใช้ปืน กับดาบสังหารมนุษย์อย่างข้ามันเป็นเพื่อนแบบไหนกัน!?!!”
มุตสึ “หือ? เจ้านี่หัวรั้นจังเลยน้อ ลองมองไปข้างหน้าให้มากกว่านี้สิ!”
ฮิเซ็น “……หา? คำพูดนั่นเอามาจากเจ้านายเก่างั้นเรอะ?”
มุตสึ “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหล่ะนะ แต่เมื่อกี๊น่ะ….เป็นคำพูดของข้าเองต่างหาก”
ฮิเซ็นกระตุกยิ้ม “หึ หากต่างกันแค่เพียงก้าว เจ้ากับข้าก็อาจจะพูดเรื่องนี้กันคนละจุดยืนก็ได้”
มุตสึ “อย่างนั้นรึ……ฮ่าๆๆ แบบนั้นก็น่าสนุกดีนี่นา!”
ฮิเซ็น “ไม่มีอะไรน่าสนุกเลยสักนิด!! ให้ตายสิ…”

ระหว่างที่คุยๆกันอยู่ ฮงมารุก็ได้รับสัญญาณบางอย่าง
ภาพของอาจารย์นันไคปรากฎขึ้นที่จอ
“–เฮ้ ได้ยินรึเปล่า?
ข้าวนเวียนหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวหน้าของปราสาทโคจิมาตลอด  แต่ก็เบื่อเสียแล้วล่ะ
ถึงอย่างนั้น ข้าก็ไม่รู้วิธีออกจากที่นี่ด้วยพลังของตนเอง
ฉะนั้น เจ้าจะมาช่วยจัดการเจ้าพวกนี้ให้ข้าอีกครั้งจะได้ไหมนะ?
พูดง่ายๆก็คือ ข้าอยากให้มารับข้าหน่อย ข้ารออยู่นะ—”
แล้วสัญญาณก็ดับไป

ฮิเซ็นบ่นว่ามีเรื่องให้ยุ่งยากอีกแล้ว ส่วนโฮริอาสาไปขออนุญาตจากซานิวะเรื่องไปรับนันไค
สึรุหน้าตายิ้มร่าขอไปกับโฮริด้วย “จะมีกำลังรบมาเพิ่มแบบนี้ นายท่านคงดีใจน่าดูนะ
แถมความรู้ของผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาบก็เป็นประโยชน์ไม่น้อย ข้าอยากจะคุยกับเขาเยอะแยะเลย!”
ทุกคนพากันเดินออกไป ยกเว้นโคการาสุมารุที่แอบเห็นมุตสึยืนเหม่อลอยจึงเอ่ยทัก
“เป็นอะไรไปรึ? ถึงได้ทำหน้ากลัดกลุ้มอย่างนั้น”
มุตสึปฏิเสธ บอกว่าไม่มีอะไรนี่ เขาก็ทำสีหน้าปกตินี่นา
“นึกเสียใจที่ฟันเรียวมะตัวปลอมงั้นหรือ…” โคการาสุมารุเอ่ยถามเสียงเรียบ
มุตสึหัวเราะ “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” โคการาสุมารุได้ฟังก็ยิ้ม “เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
ก่อนจะขอตัวตามคนอื่นๆไป

เหลือมุตสึเพียงลำพัง
“การปกป้องประวัติศาตร์คือสัญชาตญาณของดาบ…. สัญชาตญาณงั้นรึ….”
มุตสึชักดาบขึ้นมา จ้องมองที่ใบดาบของตน
“ถ้าเช่นนั้น…ดาบที่ไม่ปกป้องประวัติศาตร์…ก็ไม่ใช่ดาบสินะ”
มุตสึกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนตวัดดาบไปด้านหลัง
“ข้า…คือดาบ”

S__3276821

=====================จบภาค=====================

**ภาคผนวก**
(1) ชิชิ หรือ 志士 แปลตรงตัวจะหมายถึง นักรบผู้มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ หรือในความหมายที่ลึกกว่านั้นก็จะประมาณว่า ผู้อุทิศตัวให้ประเทศชาติและสังคม คนที่ทำตนเพื่อประเทศชาติและประชาชน นักรบผู้รักชาติ ทำนองนี้ค่ะ
(2) ทาเคจิได้ให้ความหมายกับดาบของอิโซว่า ‘天誅 (เทนจู)‘ แปลได้ว่า สวรรค์ลงฑัณฑ์ สวรรค์ทำโทษ การลงโทษแทนสวรรค์ หรือการฆ่าคนโดยอ้างว่าสวรรค์ลงโทษ
(3) โทวเคนดันชิที่พ่ายแพ้ในการออกรบที่โยชิดะ โทโยพูดถึงมี มัมบะ มุตสึ โฮเนะ โซสะ นิฮงโก คาระ
(4) อาจารย์นันไคใช้คำว่า 魑魅魍魎 (จิมิโมเรียว) ความหมายตรงตัวก็ประมาณว่า ภูตผีวิญญาณที่สถิตย์ในแม่น้ำและขุนเขา , วิญญาณแห่งแม่น้ำป่าเขา และอีกมากมาย , ภูติผีปีศาจต่างๆ
(5) คำว่า 朧 (โอโบโระ) แปลได้ว่า ไม่แจ่มชัด สลัว รางๆ ไม่กระจ่าง คลุมเครือ เลือนราง ในเสตจนี้เหล่านักรบ รวมถึงเรียวมะไม่ใช่ทั้งกองทัพข้ามเวลา ไม่ใช่ทั้งโทวเคนดันชิ ดังนั้นพวกเขาจึงมีตัวตนที่คลุมเครือไม่ชัดเจน คือไม่รู้ว่าเป็นอะไรแน่
(6) พ่อกาใช้คำว่า  張りぼて (ฮาริโบะเทะ) แปลตรงๆก็คือ ‘เปเปอร์มาเช่’ อารมณ์แบบเอากระดาษมาปั้นๆทำเป็นรูปร่าง รูปทรงต่างๆ  จะแปลให้พ่อกาพูดตรงๆว่าเปเปอร์มาเช่ก็เดี๋ยวจะเฟี้ยวเกินไป 55 เลยแปลเป็น หุ่นกระดาษ น่าจะพอได้มั้งนะ

***********

มาหวีดแต่ละตัวละครบ้าง❤

มุตสึโนะคามิ โยชิยูกิ รับบทโดย อาโอคิ จิน 1
สดใสดั่งดวงตะวันเวลาเช้าตรู่ที่โผล่พ้นจากขอบฟ้า อะไรจะสดใสซันชายน์แมนได้ถึงเบอร์นี้ ☀☀☀ ดีทุกอย่าง ดีไปหมด ดีแม้กระทั่งกล้าม และซิกแพ— แค่กๆ รอยยิ้มของจินคุงคือที่สุด! เป็นมุตสึที่สดใส และมองโลกในแง่ดีมากจริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมซานิวะฮงบุไตถึงได้ใจร้ายกับนายได้ลงคอ นายเองก็แข็งแกร่งอยู่แล้วแท้ๆ T^T แต่ก็เข้าใจว่าโทวเคนดันชิทุกคนจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้เพื่อพบกับการต่อสู้ที่แท้จริงล่ะนะ… ตอนที่ต้องสู้กับเจ้านายเก่าตัวเองเนี่ยแน่นอนว่ามันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ (ถึงจะเป็นตัวปลอมก็เถอะ) แต่มุตสึก็ยังยิ้มแล้วก็ทำตามหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีอ่ะ ซึ่งจินคุงก็ถ่ายทอดความเป็นมุตสึออกมาได้ดีมากๆ เล่นดีจนเราที่ไม่ได้เมนมุตสึรู้สึกรักในตัวละครนี้มากขึ้น จนต้องรีบกลับไปฮงตัวเองแล้วพามุตสึออกไปเวลบ้าง ฮ่าาาาาาาา รัก 

8ฮิเซ็น ทาดาฮิโระ รับบทโดย ซากุราอิ เคย์โตะ
สารภาพว่ารู้จักน้องเพราะอันสุเตะเสตจเดียว แล้วคาร์ฯที่น้องเล่นในอันสุเตะก็เป็นสายน่ารักๆคิวท์ๆ ตอนแรกเราเลยนึกภาพไม่ออกว่าน้องจะออกมาเป็นฮิเซ็นแบบไหน? แต่ปรากฎว่าน้องเป็นฮิเซ็นที่ดีมากๆ ดีเลยอ่ะ ดียยยยยยยยยยย์ เสียงเข้มๆกร๊าวใจ ในความทำเป็นเข้มทำเป็นดุก็มีความน่ารักน่าแกล้งอยู่ในตัว แต่ตอนน้องร้องไห้นี่แทบอยากจะพุ่งเข้าไปในจอ โดดถีบอาจารย์นันไคออก แล้วซับน้ำตาให้แทน (อาจารย์นันไคบอก ‘ชุ้นผิดอะไร!!’ ฮ่าๆๆๆๆ) คือเห็นน้ำตาน้องแล้วใจแม่มันไม่ไหว T_T น้องเป็นเด็กน้อยที่เชื่อฟังอาจารย์ อาจารย์ให้ทำอะไรทำหมด อาจารย์ว่าดีน้องก็ว่าดี อาจารย์เปิดฟลอร์น้องก็เป็นหางเครื่องให้ได้ 555555 สรุปว่าในฐานะที่เป็นแม่ยกคนหนึ่งของฮิเซ็น เราชอบฮิเซ็นของน้องเคย์โตะนะ แล้วก็อยากขอบคุณที่เป็นฮิเซ็นที่ดีขนาดนี้ ❤ โอะสึคาเระ!

นันไคทาโร่ โจซน รับบทโดย มิโยชิ ไดกิ2
น…นี่มัน เดอะ เรียล ออฟ นันไคเซนเซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!! (ตะโกนดังไปถึงสุดขอบกาแล๊คซี่~~~) แต่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นอาจารย์นันไคที่บันเทิงเบอร์นี้ ฮ่าาาาาาา ความเปิดฟลอร์ดิสโก้แดนซ์นั่นมันอาไร๊!!!! 🕺💃 แอบเฟลตอนอาจารย์เปิดตัว ไอ้เราก็นึกว่าจะมีฉากเปิดตัวออกมาแบบเท่ๆ กลับเปิดประตูออกมาเฉยๆซะงั้น พวกกองทัพข้ามเวลายังเปิดตัวอลังกว่าเลอ—แค่กๆ…. 55555 ส่วนตัวไม่เคยรู้จักไดกิมาก่อน มารู้ทีหลังว่าเป็นเด็กค่ายแพทซ์ ค่ายเดียวกับทาเคะจัง(ซาโยะ) ฮ่าาาา แสดงเป็นนันไคที่เหมือนดีจริงๆ รูปร่างหน้าตา โดยเฉพาะการพูดจา การยิ้มอะไรงี๊คือใช่เลย เห็นบอกว่าฝึกจากการฟังเสียงในเกมส์ซ้ำไปซ้ำมาด้วย คงพยายามมากเลย ประทับใจ เพราะทำออกมาได้ดีจริงๆ👍 จากที่ดูๆเราว่าความรู้ของอาจารย์นันไคน่าจะมีประโยชน์อยู่มากทีเดียว คงมีบทในบุไตดาบอีกแน่ๆแหล่ะ —— ว่าแต่…สรุปแล้วอาจารย์นันไคมาที่ฮงมารุของบุไตรึยังเนี่ย =_=?

อิสึมิโนะคามิ คาเนะซาดะ รับบทโดย ทาบุจิ รุย5
แคสอีกคนนึงที่เราไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ฟฟฟฟฟฟ (ชั้นไปอยู่ที่ไหนมา น้องออกจะงานดีปานฉะนี้!!!!!!!) ตอนแรกที่ประกาศแคสเราก็ว่าน้องน่ารักดีนะ แม้จะแอบคิดว่าหน้าเด็กจังก็ตาม 😂 แต่พอได้ดูน้องเล่นเป็นคาเนะซังแล้ว พูดได้คำเดียวเลยว่า…. แต่งค่ะ—แค่กๆ  คือนุ้งรุยเป็นคาเนะซังที่ดีเลยล่ะ โดยเฉพาะซีนที่ยิงปืนนี่คือกรี้ดมาก เกิดอาการหลงลืมบรรดาเมนไปชั่วขณะ อยากเข้าไปเกาะขาแล้วยื่นทะเบียนสมรสให้เซ็น ฮื่ออออ เท่มากเล้ยยยยยยย ❤ แต่แอบขัดใจที่ไม่มีบทคาเนะซังรั่วๆให้ดูบ้าง– นี่ชั้นหวังอะไร? 5555 แอบเป็นห่วงน้องเรื่องเสียงด้วย เพราะรู้สึกว่าน้องพยายามดัดให้เข้ม จนเราห่วงว่าจะเจ็บคอเลย TT แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ผ่านค่ะ! หวังว่าจะได้เห็นน้องในบทคาเนะซังอีกนะ >_< (เสตจฮิจิคาตะน่าจะมาแล้วป่ะ ห้าห้าห้าห้า)

โฮริคาว่า คุนิฮิโระ รับบทโดย โคนิชิ เอย์โตะ4
เป็นโฮริที่นุ่มนิ่ม ปุ๊ปปิ๊ก มะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง มะน่องมะแน่งมั๊บ ปะล่องป่องแป่ง ปุ๊กปิ๊กมุกมิกมุกมิกน่าเอ็นดู ❤ ในบุไตนี่ตัวติดกับคาเนะซังตลอดเวลา สมกับที่เป็นทั้งผู้ช่วยและคู่หูเลอ น้องเอย์โตะเป็นโฮริที่น่าร๊ากกกกกก  น่าเอ็นดูไปหมด น่ารักทั้งตอนเป็นโฮริ น่ารักทั้งในชีวิตจริง >_< สังเกตได้จากความเอ็นดูน้องของลุงๆน้าๆที่เล่นด้วยกัน ฮ่าาาาา รูปถ่ายแต่ละรูปที่น้องลงในทวิตเตอร์นี่คือฉดฉัยเมดมายเดย์มากๆ ความเป็นโฮริคาว่า คุนิฮิโระมันพุ่งออกมาจากรูปถ่ายจนสัมผัสได้ เด็กน้อยของป้าาาาาาาาา ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งอยากเห็นน้องขึ้นเสตจเดียวกับคุนิฮิโระเคียวไดคนอื่นๆแล้ว แต่กับมัมบะนี่ท่าจะอีกนาน… ตอนนี้คงหวังได้กับพี่เห็ดล่ะเนาะ 😂

โคการาสุมารุ รับบทโดย ทามากิ ยูกิ6
พี่ทามะก็ยังเทพสมกับเป็นพี่ทามะ การแสดงไม่ต้องพูดถึง เพราะพี่ทามะก็ยังคงเป็นพ่อกาที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เป็นพ่อกาที่ดี เป็นพ่อกาชั้นสูง เป็นพ่อการะดับไฮคลาส การเคลื่อนไหว ท่วงท่าลีลากิริยาก็ช่างสง่างาม ปราณีต อ่อนช้อยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายแขนเสื้อ แม้เวลาทำเสียงทุ้มจะแอบเสียวสันหลังวาบ เย็นยะเยือกเข้าไปถึงกระดูกก็ตามที… (ให้อารมณ์คุณตาที่เวลาปกติก็แสนใจดี แต่ถ้าเราเกเรเมื่อไหร่ก็สามารถตีเราให้หลังหักได้ 55555) ด้วยความที่เป็นดาบอาวุโสพ่อกาจึงน่าจะรู้อะไรเยอะประมาณนึง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังกั๊กไว้ตามสไตล์ รู้อะไรก็ไม่บอกมาให้หมดๆซักที จนตอนนี้อยากจะไปจับพ่อกามานั่งคุยให้รู้แล้วรู้รอด =__-

สึรุมารุ คุนินากะ รับบทโดย โซเมยะ โทชิยูกิ3
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แม้จะห่างหายจากบทสึรุไปนาน พี่ก็ยังคงเป็นสึรุที่ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีความแสบ และความความลิงมากกว่าแต่ก่อนเยอะ 555555555 กลับมาคราวนี้พี่เป็นสึรุที่ดูตื่นเต้นกับทุกสิ่งอย่าง และเหมือนจะติดเล่น ชอบแกล้งคนโน้นทีคนนี้ที แต่เวลาเอาจริงก็ดูเป็นสึรุที่ดุขึ้นมาทันตา (ซึ่งกร๊าวใจน้องเหลือเกิล❤)  และนอกจากจะกลับมาพร้อมกับความดีงาม พี่ก็มาพร้อมกับปริศนาชิ้นใหญ่ด้วยเช่นกัน…  ก็ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแคสจะเกี่ยวข้องกับการเผยปมต่างๆจักรวาลของโทสุเตะจริงรึเปล่า แต่คิดว่าสึรุจะต้องมีบทบาทสำคัญในการจะช่วยปู่ออกมาแน่ๆ แค่หวังว่าจะไม่ใช่ลาสบอสอย่างที่แฟนญี่ปุ่นบางคนเขาวิเคราะห์ล่ะนะ…แบบนั้นก็จะช็อคไป 5555 💦

โดยส่วนตัวเราชอบซีนต่อสู้ของเสตจนี้มากเลย สนุกอ่ะ! อย่างพวกอุปกรณ์ประกอบฉากที่เลื่อนไปเลื่อนมานี่คือคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ยังคิดๆอยู่เลยว่าบุไตจะทำออกมาเป็นยังไง แต่ก็แอบเป็นห่วงนักแสดงอยู่เหมือนกันนะ ถ้าพลาดมานี่คือตกเลย แถมพวกซีนต่อสู้ก็โหดมากๆ โชคดีที่ทุกคนสามารถทำการแสดงโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร >_< เรื่องความสัมพันธ์ของดาบกับเจ้านายเก่าก็อย่างซึ้งเลย เล่นเอาน้ำตาไหลเป็นสายน้ำ…. อีกอย่าง เสตจนี้ถึงแม้จะจบลงอย่างสวยงามแต่ก็เหมือนเป็นเสตจที่เพิ่มปริศนาหลายอย่างให้เราต้องไปคิดเพิ่มไปอีกอ่ะ 555 โดยเฉพาะการปรากฎตัวของ ‘มัมบะ’ ในร่างของกองทัพข้ามเวลาเนี่ย…เล่นเอาในสมองมีแต่คำว่า ห๊ะ! เห้ย! หือ! ว๊อท! เต็มไปหมด แต่คิดไปก็ปวดหัว เอาเป็นว่าคงต้องรอติดตามกันต่อไปล่ะเนาะ

เอาล่ะ มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว หลังจากที่เขียนมานานมากกกกกกกกก ใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์เห็นจะได้ (บวกกับเวลาที่อู้แล้ว 5555) ด้วยความที่ไม่เก่งเขียนนิยายหรืออะไรทำนองนี้เท่าไหร่เลยพยายามเขียนไม่ให้งง แต่ก็ทำได้เท่านี้จริงๆ 😂 หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะ สุดท้ายนี้ เราไม่ใช่คนเก่ง ดังนั้นถ้าฟังพลาด แปลผิด หรือผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะ

– また、いつぞや始めよう!-

เกี่ยวกับ yukino_yukitty

✿ติ่ง2.5 บล๊อกเวิ่น บล๊อกแปล (แปลบ้างไม่แปลบ้างแล้วแต่อารมณ์)
เรื่องนี้ถูกเขียนใน Uncategorized และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น